“ซีคอน” เผยผลประกอบการปี’64 ตั้งเป้าปี’65 มีรายได้ 2,400 ล้านบาท เน้นสร้างแบรนด์ผ่านช่องทางดิจิทัลมาร์เก็ตติ้งมากขึ้น

บริษัท ซีคอน จำกัด บริษัทรับสร้างบ้านรายแรกในประเทศไทย และรายเดียวของประเทศไทยที่มีบ้านตัวอย่างให้ชมก่อนการตัดสินใจ เพื่อสร้างประสบการณ์ตรงในการสัมผัสบ้านจริง วัสดุจริง สไตล์การตกแต่งบ้านจริง และอื่น ๆ เพื่อตอกย้ำความมั่นใจ และส่งผลเชิงบวกให้กับลูกค้าก่อนการตัดสินใจซื้อได้ง่ายยิ่งขึ้นแถลงผลประกอบการปี พ.ศ.2564 มีผลประกอบการรวมอยู่ที่ 1,880 ล้านบาท ส่วนแผนการดำเนินงานในปี พ.ศ. 2565 บริษัทฯมีกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจ โดยจะมุ่งเน้นการทำตลาด และสร้างแบรนด์ผ่านช่องทางดิจิทัล มาร์เก็ตติ้งมากขึ้นเพราะเป็นช่องทางที่สอดคล้องกับสถานการณ์ในปัจจุบันและสร้างยอดขายเติบโตขึ้นมากกว่า 40% และยังคงทำควบคู่ไปกับช่องทางออฟไลน์ รวมถึงการให้ความสำคัญกับการสร้างนวัตกรรมที่ช่วยยับยั้ง และป้องกัน COVID-19 และนวัตกรรมรักษ์โลก ซึ่งหากทำได้ตามแผนกลยุทธ์ที่วางเอาไว้ในปีพ.ศ.2565 จะสร้างผลประกอบการรวมอยู่ที่ประมาณ 2,400 ล้านบาทตามเป้าหมายที่ได้วางไว้

มนู ตระกูลวัฒนะกิจ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีคอน จำกัด กล่าวว่า ภาพรวมตลาดรับสร้างบ้านในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของ COVID-19 เช่นเดียวกับภาคธุรกิจอื่นๆ แต่ด้วยความต้องการในที่อยู่อาศัยของผู้บริโภคยังคงมีอย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะบ้านขนาดกลางและใหญ่ เป็นกลุ่มที่มีทิศทางการเติบโตที่ดีมาก ส่วนบ้านขนาดเล็กมีการเติบโตลดลง โดยในปี พ.ศ. 2564 ที่ผ่านมาจากข้อมูลของสมาคมธุรกิจรับสร้างบ้านนั้นพบว่า ภาพรวมตลาดรับสร้างมีมูลค่ารวมอยู่ที่ประมาณ 20,000 ล้านบาท เติบโตจากปีพ.ศ. 2563 ซึ่งมีมูลค่าตลาดรับสร้างบ้านรวมอยู่ที่ประมาณ 12,000 ล้านบาท

ในส่วนของผลการดำเนินงานของบริษัทฯในปี พ.ศ. 2564 ที่ผ่านมา บริษัทฯมียอดขายสูงกว่าเป้าหมายที่วางไว้ 14% และหากนำ SEACON ID มารวมด้วยนับเป็นยอดขายที่สูงกว่าเป้าเกินกว่า 26% ซึ่งทำให้ผลประกอบการรวมอยู่ที่ประมาณ 1,880 ล้านบาท แบ่งเป็นสัดส่วนตามขนาดพื้นที่ใช้สอยของบ้าน ได้แก่ บ้านขนาดใหญ่ พื้นที่ใช้สอย 351 ตารางเมตร ขึ้นไป ประมาณ 55% บ้านขนาดกลาง พื้นที่ใช้สอย 200-350 ตารางเมตรขึ้นไปประมาณ 32% และบ้านขนาดเล็กพื้นที่ใช้สอยน้อยกว่า 200 ตารางเมตรประมาณ 13%

มนู กล่าวว่าสำหรับกลยุทธ์การตลาดของบริษัทฯ ในปี พ.ศ. 2565 จะยังคงสร้างบ้านให้ลูกค้าจากประสบการณ์ตรงให้ลูกค้าได้สัมผัสบ้านจริง วัสดุจริง สไตล์การตกแต่งบ้านจริง และอื่นๆ เพื่อตอกย้ำความมั่นใจ และส่งผลเชิงบวกให้กับลูกค้าก่อนการตัดสินใจซื้อได้ง่ายยิ่งขึ้น พร้อมกันนี้จะเน้นรูปแบบการทำตลาดสร้างแบรนด์ผ่านช่องทางดิจิทัล มาร์เก็ตติ้งมากขึ้น เพราะเป็นช่องทางที่สอดคล้องกับสถานการณ์ในปัจจุบันและมียอดขายเติบโตขึ้นมากกว่า 40% โดยยังคงทำควบคู่ไปกับช่องทางออฟไลน์ ผ่านการออกงาน Exhibitionและงาน Roadshow ต่างๆ สร้างการรับรู้ของกลุ่มลูกค้าของบริษัทฯอย่างต่อเนื่อง ทั้งการใช้วัสดุก่อสร้างที่มีประสิทธิภาพสูงได้รับมาตรฐานการยอมรับจากหลายๆหน่วยงานของรัฐ การควบคุมงานจากทีมงานมีอาชีพทำหการก่อสร้างแล้วเสร็จไว และระยะการส่งมอบงาน ประหยัดเงินให้กับลูกค้าได้อีกทางหนึ่งด้วย รวมถึงการให้ความสำคัญกับการคิดค้นสร้างนวัตกรรมที่ช่วยยับยั้ง และป้องกัน COVID-19 และนวัตกรรมรักษ์โลก เช่น ระบบ SEACON Cool System นวัตกรรมบ้านเย็นและประหยัดพลังงาน ระบบ SEACON Clean System และระบบ SEACON Clean System ระบบเดินอากาศบริสุทธิ์

ในส่วนของเทรนด์ของตลาดรับสร้างบ้านในปี พ.ศ.2565 พบว่าจะมีลูกค้า 2 กลุ่มหลักที่มีกำลังซื้อสูง ได้แก่ บ้านหลังใหญ่สไตล์ ยุโรป และกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่ชอบบ้านสไตล์โมเดิร์น และมินิมอล ซีคอนจึงได้ออกแบบชุดใหม่ Horizon Series ที่มีความล้ำเรื่อง Space ภายในซึ่งเน้นความกว้างขวาง แต่มีรายละเอียดที่โฉบเฉี่ยวกว่าแบบบ้านปกติ โดยมาพร้อมกับ Function พื้นฐานที่ครบถ้วน ซึ่งทางบริษัทฯ ได้วางกลยุทธ์รับมือไว้แล้ว ซึ่งคาดว่ากลยุทธ์นี้จะข่วยผลักดันให้มียอดขายรวมที่ประมาณ 2,400 ล้านบาท

โดยคาดการณ์ว่า กลุ่มตลาดที่มีการเติบโตอย่างต่อเนื่องมาจาก บ้านขนาดใหญ่ ระดับราคา 7 ล้านบาทขึ้นไป พบว่ามีการขยายตัวมากขึ้นกว่า 85% ส่วนกลุ่มบ้านราคา 15-20 ล้านบาทขึ้นไป ขยายตัวมากขึ้น

นอกจากนี้บริษัทฯจะจับมือร่วมกับพันธมิตรในการสร้างบริการใหม่ๆ เพิ่มขึ้น เพื่อตอบโจทย์ลูกค้า โดยในปี พ.ศ.2564 ที่ผ่านมามีการทำโปรเจกต์ SEACON Privileges ให้กับลูกค้าสมาชิกของบริษัทฯ ได้รับสิทธิพิเศษและสิทธิประโยชน์จากความร่วมมือกับพันธมิตร และร้านค้าต่าง ๆ โดย ปี พ.ศ. 2565 นี้จะเน้นเรื่องนี้เป็นพิเศษมากขึ้น

สำหรับกิจกรรมแรกในปี พ.ศ.2565 จะเริ่มในช่วงปลายเดือนมีนาคมต่อเนื่องถึงต้นเดือนเมษายน เป็นต้นไป

สุรเชษฐ์ สายนุช ผู้อำนวยการสายงานปฏิบัติการ บริษัท ซีคอน จำกัด กล่าวว่า บริษัท SEACON ID เป็นบริษัทในเครือของซีคอนที่ให้บริการแนวใหม่ โดยลูกค้าสามารถนำแบบบ้านที่มีอยู่แล้วมาให้เราสร้างให้ได้เลย หรือ ถ้ามีแบบในใจแต่ไม่รู้จะไปอธิบายให้ใครฟัง จะมีทีมงานออกแบบที่มีประสบการณ์ในการออกแบบและสร้างให้พร้อมกันในหนึ่งเดียวด้วยระบบซีคอนที่ครบวงจรและมั่นใจได้

ในปี พ.ศ. 2564 ที่ผ่านมา SECON ID ทำยอดขายได้มูลค่า 180 ล้านบาท  โดยส่วนใหญ่เป็นกลุ่มลูกค้าที่มีมูลค่าตั้งแต่ 20 ล้านบาทขึ้นไป สำหรับปี พ.ศ.2565นี้ บริษัทฯ ตั้งเป้ารายได้ที่ 500 ล้านบาท โดยมุ่งเน้นการให้บริการที่รวดเร็วมากยิ่งขึ้น