Saturday, April 20, 2024
Latest:
Property

“โอฬาร จันทร์ภู่” นายกสมาคมรับสร้างบ้านคนใหม่ วาง 3 กลยุทธ์หลัก เสริมแกร่งสมาคมฯ ให้เติบโตอย่างยั่งยืน

สมาคมธุรกิจรับสร้างบ้าน (HBA : Home Builder Association) เปิดตัว “โอฬาร จันทร์ภู่” นายกสมาคมธุรกิจรับสร้างบ้านคนใหม่ ซึ่งมีวาระการทำงาน 3 ตั้งแต่ปี พ.ศ.2566-2568 โดยนายกสมาคมรับสร้างบ้านคนใหม่ วาง 3 กลยุทธ์หลักในการทำงาน ได้แก่ การยกระดับมาตรฐานธุรกิจรับสร้างบ้านให้เป็นที่ยอมรับ และน่าเชื่อถือในระดับประเทศ เดินหน้าสู่ดิจิทัลแพลตฟอร์ม (Digital Platform) ให้ครบทุกมิติและทันกับสถานการณ์ในปัจจุบัน และขยายฐานความร่วมมือกับพันธมิตร ทั้งภาครัฐ และเอกชน และการขยายฐานบริษัทสมาชิกให้ครอบคลุมทุกภูมิภาคทั่วประเทศ เสริมความแข็งแกร่งของสมาคมฯ ให้เติบโตได้อย่างยั่งยืน

นอกจากนี้ยังประกาศความพร้อมในการจัดงาน “รับสร้างบ้านและวัสดุ Focus 2023 : สร้างบ้านที่ใช่ ในสไตล์ที่ชอบ” ในระหว่างวันที่ 8-12 มีนาคม พ.ศ.2566 ณ ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี ฮอลล์ 6 ซึ่งจัดขึ้นต่อเนื่องเป็นที่ 19 เพื่อตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าที่ต้องการมีบ้านให้มีความเชื่อมั่นในการรับสร้างบ้านของสมาชิกในสมาคมรับสร้างบ้านมากขึ้น


สานต่อนโยบาย พร้อมชู 3 กลยุทธ์หลัก เสริมแกร่งสมาคมฯให้เติบโตอย่างยั่งยืน

โอฬาร จันทร์ภู่ นายกสมาคมธุรกิจรับสร้างบ้าน (HBA : Home Builder Association) กล่าวว่า การทำงานในตำแหน่งนายกสมาคมรับสร้างบ้าน พร้อมคณะกรรมการชุดใหม่นี้ ในวาระ 3 ปี ตั้งแต่ปี พ.ศ.2566-2568 นั้น ได้มีการสานต่อนโยบายการทำงานของคณะกรรมการฯ ชุดเก่าและวาง 3 กลยุทธ์หลักการทำงานใหม่ ได้แก่ 1.การยกระดับมาตรฐานธุรกิจรับสร้างบ้านให้เป็นที่ยอมรับและน่าเชื่อถือในระดับประเทศ มุ่งตอกย้ำและสร้างความเชื่อมั่นอย่างสูงสุด เพื่อให้สมาคมฯ เข้าไปอยู่ในใจของผู้บริโภค รวมทั้งมุ่งสนับสนุนการพัฒนาศักยภาพสมาชิกให้เติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืน เพื่อขับเคลื่อนสมาคมฯ สู่การเป็นองค์กรชั้นนำของประเทศ2.กลยุทธ์เดินหน้าสู่ดิจิทัลแพลตฟอร์ม (Digital Platform) ให้ครบทุกมิติและทันกับสถานการณ์ในปัจจุบัน เพื่อเพิ่มโอกาสทางการตลาดของสมาชิก และกระตุ้นการประชาสัมพันธ์ภาพลักษณ์ของสมาคมฯ ให้ขยายวงกว้างมากยิ่งขึ้น และ3.การขยายฐานความร่วมมือกับพันธมิตร ทั้งภาครัฐและเอกชน และการขยายฐานบริษัทสมาชิกให้ครอบคลุมทุกภูมิภาคทั่วประเทศ เพื่อเสริมความแข็งแกร่งของสมาคมฯ ให้เติบโตได้อย่างยั่งยืน โดยปัจจุบันสมาคมรับสร้างบ้านมีสมาชิกทั้งหมด 73 บริษัท เป็นบริษัทรับสร้างบ้านในกรุงเทพประมาณ 85% และอีกประมาณ 15% เป็นสมาชิกรับสร้างบ้านที่อยู่ในต่างจังหวัด

ในปี พ.ศ. 2565 ที่ผ่านมาธุรกิจรับสร้างบ้าน มีมูลค่าตลาดรวมอยู่ที่ 12,500 ล้านบาท เติบโตจากปี พ.ศ.2564 ประมาณ 9% แสดงให้เห็นถึงความต้องการปลูกสร้างบ้านพักอาศัยของผู้บริโภคในตลาดยังคงมีจำนวนมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มลูกค้าในต่างจังหวัด ที่นิยมสร้างบ้านในระดับราคา 1,000,000-3,000,000 บาท และกลุ่มลูกค้าในกรุงเทพมหานครและปริมณฑลในระดับราคา 2,000,000-4,000,000 บาท ในส่วนของตลาดรับสร้างบ้านในปี พ.ศ. 2566 คาดว่ายังมีโอกาสขยายตัวได้อย่างต่อเนื่อง เพราะผู้บริโภครับรู้และเชื่อมั่นในบริการของบริษัทรับสร้างบ้านมากขึ้น ภายหลังสถานการณ์ COVID-19 มีการต่อเติมบ้าน ปรับบ้านรับการใช้ชีวิตแบบรักสุขภาพมากขึ้น ทำให้ตลาดรับสร้างบ้านกลับมาคึกคักอีกครั้ง ทั้งนี้คาดมูลค่าตลาดรับสร้างบ้านในปี พ.ศ.2566 จะมีมูลค่าประมาณ 13,250 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6% จากปี พ.ศ. 2565


ชี้ปัจจัยเสี่ยงในตลาดรับสร้างบ้าน ราคาวัสดุก่อสร้างสูงขึ้น – ขาดแคลนแรงงานจำนวนมาก

ในส่วนของปัจจัยเสี่ยงของตลาดรับสร้างบ้านนั้น ยังคงต้องรอบคอบในการดำเนินธุรกิจภายใต้สถานการณ์เศรษฐกิจโลก สงครามรัสเซีย-ยูเครนที่ยังไม่มีท่าทียุติสงผลให้วัสดุที่นำมาใช้สร้างบ้านราคายังคงสูงขึ้น ภาวะดอกเบี้ยปรับสูงขึ้น และปัญหาขาดแคลนแรงงาน ซึ่งเป็นต้นทุนที่สำคัญสำหรับการสร้างบ้าน ส่งผลค่อนข้างมากต่อราคาบ้านทั้งในปัจจุบันและในอนาคต โดยทางสมาคมฯ ได้รวบรวมข้อจำกัด พร้อมวางแนวทางรับมือและกลยุทธ์ เพื่อสร้างการเติบโตของตลาดรับสร้างบ้านไว้ ประกอบด้วย ปัญหาของต้นทุนการก่อสร้างที่เพิ่มสูงขึ้น ที่ยังคงเป็นปัจจัยสำคัญ ซึ่งส่งผลให้ต้นทุนในการก่อสร้างเพิ่มสูงขึ้น ทั้งนี้บริษัทรับสร้างบ้านที่เป็นสมาชิกของสมาคมฯ ยังแบกรับต้นทุนที่สูงขึ้นนี้อยู่ หากปัญหานี้ยังไม่คลี่คลายอาจจะนำไปสู่การปรับขึ้นราคาบ้านในที่สุด โดยคาดว่าจะมีการปรับขึ้นราคาบ้านในไตรมาสที่ 2 ของปีนี้ ประมาณ 5-10% และการขาดแคลนแรงงาน เนื่องจากสถานการณ์เริ่มเข้าสู่สภาวะปกติ ทำให้เกิดความต้องการแรงงานเพิ่มมากขึ้น ส่งผลให้เกิดการขาดแคลนแรงงานในภาคก่อสร้างอย่างหนัก เนื่องจากแรงงานที่มีอยู่ก่อนหน้านี้บางส่วนเปลี่ยนอาชีพ และบางส่วนเข้าไปสู่ภาคอุตสาหกรรมอื่น เช่น ภาคบริการ การท่องเที่ยว เป็นต้น ทำให้ปัจจุบันธุรกิจรับสร้างบ้านขาดแคลนแรงงานอย่างหนัก


สมาคมฯ หารือผู้ว่ากทม.ขออนุญาตก่อสร้างบ้านในกรุงเทพฯ ผ่านออนไลน์ ลดขั้นตอน – เพิ่มความรวดเร็วในการทำงาน

ทั้งนี้ทางสมาคมฯ มีข้อมูลว่า แรงงานตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน พ.ศ.2563 ที่หนังสือเดินทาง (Passport) หมดอายุ และวีซ่า (VISA) สิ้นสุด มีแรงงานจำนวนมากที่ไม่ได้ไปดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม พ.ศ. 2565 ทำให้แรงงานเหล่านี้กลายเป็นแรงงานที่ไม่ถูกต้องตามกฎหมาย ทางสมาคมฯ จึงขอให้กระทรวงแรงงานพิจารณาเปิดขึ้นทะเบียนแรงงานในประเทศอีกรอบ เพื่อแก้ไขปัญหาขาดแคลนแรงงานและข้อจำกัดของการทำธุรกิจรับสร้างบ้าน ที่มาจากขั้นตอนการขออนุญาตจากหน่วยงานภาครัฐยังคงมีความซับซ้อน

“จากปัจจัยดังกล่าวนำมาสู่การหาแนวทางรับมือให้ก้าวข้ามภาวะวิกฤตต่างๆ ไปให้ได้ โดยสมาคมฯ ได้หารือกับชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ในการขออนุญาตก่อสร้างบ้านในเขตกรุงเทพฯ ผ่านช่องทางออนไลน์ เพื่อลดขั้นตอนและเพิ่มความรวดเร็วในการทำงาน รวมถึงเป็นการสร้างความโปร่งใสในการทำงานระหว่างหน่วยงานรัฐและเอกชน ในเบื้องต้นทาง กทม. จะอนุญาตให้บ้านไม่เกิน 3 ชั้น และขนาดไม่เกิน 300 ตรม. สามารถยื่นก่อสร้างผ่านระบบออนไลน์ หากผลตอบรับดีเตรียมขยายพื้นที่การก่อสร้างอื่นๆ เพิ่มเติม ซึ่งที่ผ่านมา สมาคมฯ ยังได้เรียกร้องให้ผู้ว่ากทม.เปิดสายตรง เพื่อรับเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับเรื่องการขออนุญาตก่อสร้างด้วย” โอฬาร กล่าว

สำหรับความคาดหวังจากรัฐบาลชุดใหม่ โอฬาร กล่าวว่า ต้องการให้รัฐบาลชุดใหม่ช่วยขับเคลื่อนข้อเสนอแนะที่ทางสมาคมธุรกิจรับสร้างบ้านส่งร้องขอไปในประเด็นต่างๆ โดยเฉพาะเรื่องการจัดหาแรงงานให้เพียงพอ การอำนวยความสะดวกในการต่อใบอนุญาตแรงงานให้ช่วยผ่อนผันขั้นตอนลดลงตามสถานการณ์จริง และเรื่องการอำนวยความสะดวกในการกำหนดสินเชื่อที่จะช่วยให้ทั้งกลุ่มผู้บริโภคและกลุ่มธุรกิจรับสร้างบ้านมีความสะดวกคล่องตัวในการบริหารสถานทางการเงินเพื่อนำมารับสร้างบ้านและเลือกสร้างบ้านเพื่อที่อยู่อาศัยต่อไป


สมาคมฯ เตรียมจัดงาน “รับสร้างบ้านและวัสดุ Focus 2023” คาดยอดจองภายในงาน4,000 ล้านบาท ผู้เข้าชมงาน 12,000 คน

ปริญญา เอี่ยมประดิษฐ์ภัณ อุปนายกฝ่ายกิจกรรมพิเศษ กล่าวว่า ทางสมาคมฯ ได้เตรียมกระตุ้นกำลังซื้อผ่านการจัดงานแสดงสินค้า “งานรับสร้างบ้านและวัสดุ Focus 2023” ภายใต้คอนเซ็ปต์ “สร้างบ้านที่ใช่ ในสไตล์ที่ชอบ” ซึ่งเป็นงานที่รวบรวมบริษัทรับสร้างบ้านชั้นนำ ที่จะมานำเสนอบริการแบบครบวงจร พร้อมนำเสนอแบบบ้านมากกว่า 1,000 แบบ พร้อมทั้งโปรโมชั่นสุดพิเศษมากมาย ซึ่งแต่ละแบรนด์จะมีการมอบโมโมชัน ลด แลก แจกแถมต่างๆของแต่ละแบรนด์ไม่น้อยกว่า 100,000 บาท ตามข้อกำหนดของแต่ละแบรนด์ภายในงาน ทั้งนี้มั่นใจว่าการจัดงานในครั้งนี้จะสร้างยอดจองบ้านภายในงานจะใกล้เคียงปี พ.ศ.2564 ที่ผ่านมา ประมาณ 4,000 ล้านบาท และคาดว่าจะมีผู้เข้าชมงาน 12,000 คน

สำหรับงานรับสร้างบ้านและวัสดุ Focus 2023 มีกำหนดจัดขึ้นในวันที่ 8-12 มีนาคม พ.ศ. 2566 ณ ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี ฮอลล์ 6 เป็นการจัดงานปีที่ 19 ซึ่งทุกๆปี จะได้รับการตอบรับจากผู้ที่ต้องการปลูกสร้างบ้านที่จะเข้ามาชมงาน นอกจากนี้ยังมีผู้ที่สนใจศึกษาหาข้อมูลเกี่ยวกับแบบบ้านและวัสดุก่อสร้างมาร่วมชมงาน โดยในงานนี้มีบริษัทรับสร้างบ้านและบริษัทวัสดุก่อสร้างเข้าร่วมออกงานกว่า 40 บริษัท มีทั้งผู้ประกอบการในกรุงเทพมหานครและปริมณฑลและผู้ประกอบการรับสร้างบ้านจากต่างจังหวัด ซึ่งผู้บริโภคที่เข้าร่วมงานนอกจากจะได้รับคำแนะนำดีๆในการสร้างบ้านจากผู้ประกอบการรับสร้างบ้านที่เป็นสมาชิกของสมาคมฯแล้ว ยังจะช่วยสร้างความมั่นใจให้กับกลุ่มผู้บริโภคที่เลือกใช้บริษัทรับสร้างบ้านจากทางสมาคมฯว่าจะไม่ทอดทิ้งงานและจะไม่มีความเสี่ยงเรื่องงานล่าช้าเพราะทางผู้ประกอบการจะมีการรับประกันความเสี่ยงในการสร้างบ้านแก่กลุ่มผู้บริโภคตามข้อกำหนดของทางสมาคมฯและข้อกำหนดของแต่ละบริษัทด้วย

นอกจากโปรโมชันสุดพิเศษจากบริษัทที่มาร่วมออกงานและภายในงานยังมีสินเชื่อพิเศษจากสถาบันการเงิน หากลงทะเบียนเข้าร่วมงานล่วงหน้า ยังได้รับแบบบ้านใหม่พร้อมแปลนในรูปแบบ e-book, คูปองส่วนลดสูงสุด 10,000 บาท และเมื่อจองปลูกสร้างบ้านภายในงานลุ้นรับรางวัลทองคำแท่งมูลค่ารวมกว่า 150,000 บาท