Friday, April 26, 2024
Latest:
Property

ซีคอน ชู 3 กลยุทธ์ ดันยอดขายปี’66 ทะลุ 2,500 ล้านบาท พร้อมทุ่มทุน200 ล้านบาท สร้างโรงงานแห่งที่ 2 ย่านลำลูกกา

ซีคอน โชว์ผลประกอบการปี 2565 สวนกระแสภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว สร้างยอดขายเฉียด 2,000 ล้านบาท เดินหน้ารุกธุรกิจปี 2566 ชู 3 กลยุทธ์หลัก สร้างความยั่งยืน (Sustainability) กลยุทธ์การตลาดOffline – Online และสร้างโปรดักต์ใหม่ออกสู่ตลาด พร้อมเปิดตัว 2แบบบ้านใหม่เอาใจลูกค้าสไตล์มินิมอล ทุ่มทุน 200 ล้านบาท สร้างโรงงานผลิตชิ้นส่วนสำเร็จรูปแห่งใหม่ 26 ไร่ ย่านลำลูกกา และมุ่งเน้นใช้วัสดุที่มีคุณภาพ ปลอดสารก่อมะเร็ง มีการรับรอง Carbon Footprint ประหยัดพลังงานและนวัตกรรมบ้านเย็นเพื่อคุณภาพชีวิตที่ดี และรักษาสิ่งแวดล้อม ตั้งเป้ายอดขายทั้งซีคอน และ SEACON IDทะลุ 2,500 ล้านบาท

มนู ตระกูลวัฒนะกิจ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีคอน จำกัด เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานในปี 2565 ว่า บริษัทฯ สามารถทำยอดขาย 1,920 ล้านบาท แบ่งเป็นยอดขาย Online 32.30% และยอดขาย Offline จากการออกงานแสดงสินค้า 67.70% ซึ่งเป็นตัวเลขที่สูงกว่าปี 2564 ประมาณ 120 ล้านบาท ทั้งนี้เป็นผลจากการไม่หยุดนิ่งในด้านพัฒนากลยุทธ์การตลาด และมองหาโอกาสใหม่ ๆ เช่น การให้การบริการ Turn Key ครบวงจร ของ SEACON ID ตลอดจนการตอกย้ำความน่าเชื่อถือด้านคุณภาพและการให้บริการด้วยประสบการณ์กว่า 62 ปี

ในปีที่ผ่านมา สัดส่วนยอดขายของซีคอนมาจากฐานลูกค้าที่มีความต้องการบ้านขนาดใหญ่ และบ้านขนาดกลางเป็นหลัก แบ่งเป็น 1.บ้านขนาดใหญ่ ราคาบ้าน 8 – 50 ล้านบาทขึ้นไป มีพื้นที่ใช้สอย 351 ตร.ม. ขึ้นไป คิดเป็น 50% 2.บ้านขนาดกลาง ราคา 5 – 7.9 ล้านบาท มีพื้นที่ใช้สอย 200 – 350 ตร.ม. คิดเป็น35% และ 3.บ้านขนาดเล็ก ราคา 2 – 4.9 ล้านบาท มีพื้นที่ใช้สอย 200 ตร.ม. คิดเป็น15%

ทั้งนี้ หลังจากสถานการณ์ COVID-19 ที่เริ่มคลี่คลาย ทำให้ความต้องการสร้างบ้านขนาดเล็กเริ่มกลับมามากขึ้น ทำให้ภาพรวมในปี 2565 ซีคอนสามารถทำผลงานได้อย่างโดดเด่น โดยเฉพาะยอดเซ็นสัญญา 1,200 ล้านบาท ซึ่งเป็นตัวเลขที่สูงเป็นประวัติการณ์ในรอบหลาย 10 ปีที่ผ่านมา” มนู กล่าว

จากข้อมูลของสมาคมธุรกิจรับสร้างบ้านระบุว่า มูลค่ารวมของตลาดรับสร้างบ้านในปี 2565 อยู่ที่ 12,500 บาท ส่วนปี 2566 คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 13,250 ล้านบาท เติบโตขึ้น 6% สำหรับแผนงานปี 2566 ซีคอนตั้งเป้า 2,500 ล้านบาท โดยสร้าง 3 กลยุทธ์หลัก ประกอบด้วย

  • กลยุทธ์ความยั่งยืน (Sustainability) ซีคอน และ SEACON ID โดยให้ความสำคัญกับการใช้วัสดุที่มีคุณภาพ มีการรับรองเรื่อง Carbon Footprint และนวัตกรรมสินค้าปลอดสารก่อมะเร็ง ซึ่งเป็นการรับผิดชอบต่อลูกค้า สังคม และสิ่งแวดล้อม อีกทั้งยังเป็นวัสดุภายในประเทศซึ่งช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจภายในประเทศ เสริมสร้างคุณภาพชีวิตและสุขภาพ เช่น เข็มกดไฮโดรลิก
    นวัตกรรมบ้านระบายอากาศ SEACON Cool & Clean System โดยการเติมออกซิเจนภายในตัวบ้านให้ได้รับอากาศเย็นสดชื่นตลอดเวลา อิฐมวลเบา ฉนวนกันความร้อน อลูมิเนียมที่ไม่มีส่วนผสมของสารตกค้าง สีรักษ์โลก Beger พร้อมทั้งบริการติดตั้ง Solar Rooftop ให้กับบ้านของลูกค้าเพื่อช่วยประหยัดพลังงาน รวมทั้ง EV Charger
  • กลยุทธ์การตลาดOnline – Offline โดยพัฒนาเครื่องมือการตลาดใหม่ ๆ เพื่อเข้าถึงลูกค้าให้ได้มากที่สุด เพื่อขยายฐานลูกค้าในช่องทางออนไลน์ให้สอดรับกับการบริโภคสื่อที่เพิ่มขึ้น ตลอดจนการคัดสรรสิทธิพิเศษต่างๆ ให้แก่ลูกค้าภายใต้โครงการ SEACON Privileges ขณะเดียวกันช่องทางการทำตลาดแบบ Offline ยังคงเป็นอีกหนึ่งช่องทางสำคัญที่เข้าถึงลูกค้าได้โดยตรง โดยในปี 2566 นี้ซีคอนเตรียมเข้าร่วมกับ 2 งานใหญ่ คือ “งานรับสร้างบ้าน และวัสดุ Focus 2023” ระหว่างวันที่ 8 – 12 มีนาคม 2566 ณ อิมแพค เมืองทองธานี Hall 6 และ“งานบ้านและสวน Select 2023” ระหว่างวันที่ 18 – 26 มีนาคม 2566 ณ ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้าไบเทค บางนา
  • การพัฒนาโปรดักต์ใหม่ ซีคอนเตรียมแบบบ้านใหม่ สไตล์โมเดิร์นมินิมอล (Style Modern Minimal) ซึ่งเป็นเทรนด์ยอดนิยมในปัจจุบัน มีจุดเด่นที่ความเรียบง่าย ผสมผสานความทันสมัยไว้อย่างลงตัว ด้วยการลดทอนส่วนตกแต่งที่ไม่จำเป็นออก เพื่อโชว์ให้เห็นรูปทรงที่เป็นเอกลักษณ์ของบ้านได้อย่างชัดเจน เน้นโทนสีอ่อน ที่เรียบง่ายเป็นหลัก ซึ่งจะเปิดตัวพร้อมกันใน 2 งานใหญ่เดือนมีนาคม ศกนี้

สำหรับตัวอย่างแบบบ้านใหม่ แบบที่ 1 แบบบ้าน : Minimal 1092ที่เรียบง่ายแต่หรูหรา ชั้นล่างเป็นลักษณะ Open แปลนออกแบบฟังก์ชันให้มีความต่อเนื่อง ไม่มีผนังมากั้นขวาง อีกทั้งยังใช้บานหน้าต่างที่สูงถึงชั้นบนทั้งด้านหน้า และด้านหลัง ทำให้พื้นที่มีความโปร่ง สบาย สามารถสัมผัสถึงธรรมชาติรอบบ้านได้อย่างลงตัว ซึ่งแบบบ้านนี้ประกอบด้วย ห้องนอน จำนวน 4 ห้อง ห้องน้ำ 5 ห้อง จอดรถได้ 4 คัน ที่จอดรถจะแยกออกจากตัวบ้าน ทำให้ใช้งานตัวบ้านได้อย่างเต็มพื้นที่.

แบบที่ 2 แบบบ้าน : Minimal 1256 การออกแบบภายนอกตัวบ้านคำนึงถึงความเป็นส่วนตัวของผู้อยู่อาศัย หน้าต่างดีไซน์ให้มีช่องเปิดขนาดใหญ่ เพื่อช่วยดึงแสงจากธรรมชาติเข้าไปยังบริเวณห้องต่าง ๆ ทำให้ตัวบ้านดูมีชีวิตชีวามากขึ้น ภายในออกแบบให้มีฟังก์ชันครบถ้วน ทั้งส่วนพักผ่อน นั่งเล่น และเตรียมอาหาร มีพื้นที่ใช้สอยที่กว้างขวาง เปิดโล่งแบบ Open แปลนเชื่อมโยงกับฟังก์ชันต่าง ๆ ได้อย่างลงตัว แบบบ้านนี้ประกอบด้วย ห้องนอน จำนวน 4 ห้องนอน ห้องน้ำ 5 ห้อง จอดรถได้ 4 คัน โดยที่จอดรถจะเชื่อมต่อกับตัวบ้าน และพื้นที่เก็บของขนาดใหญ่ เพิ่มความสะดวกสบายให้กับผู้อยู่อาศัยอย่างเต็มที่

มนู กล่าวว่า จากแนวโน้มของตลาดรับสร้างบ้านที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง ทำให้ซีคอนมีแผนลงทุน 200 ล้านบาท สร้างโรงงานผลิตชิ้นส่วนสำเร็จรูปแห่งที่ 2 บนเนื้อที่กว่า 26 ไร่ บริเวณลำลูกกาคลอง 12 ตั้งเป้าผลิตชิ้นส่วนสำเร็จรูปเต็มกำลังการผลิตไว้ที่ 120,000 ชิ้นต่อปี เพื่อรองรับการขยายตัวของธุรกิจในอนาคต โดยลงทุนในเฟสแรก 120 ล้านบาท ในระยะแรกจะผลิตประมาณ 60,000 ชิ้นต่อปี คาดว่าโรงงานจะสร้างแล้วเสร็จและ Test Run ในเดือนสิงหาคม ศกนี้ สำหรับโรงงานแห่งแรกของซีคอน ตั้งอยู่บนพื้นที่ 12 ไร่ ย่านอ่อนนุช มีกำลังการผลิตเสาคาน 60,000 ชิ้น ต่อปี

ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา ซีคอนได้เปิดตัว SEACON ID โดยมุ่งเน้นการให้บริการแบบครบวงจร ได้แก่ การสร้างบ้านตามแบบของลูกค้า การออกแบบ การตกแต่งภายใน การออกแบบ Landscape การสร้างสระว่ายน้ำ เป็นต้น ลูกค้าสามารถเลือกใช้บริการได้ทั้งการออกแบบตามแบบที่ลูกค้าต้องการ และ บริการแบบ SEACON ID Turn Key ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดี ธุรกิจเติบโตต่อเนื่อง

สุรเชษฐ์ สายนุช (ซ้าย) ผู้อำนวยการสายงานปฏิบัติการ บริษัท ซีคอน จำกัด

สุรเชษฐ์ สายนุช ผู้อำนวยการสายงานปฏิบัติการ บริษัท ซีคอน จำกัด กล่าวว่า กลุ่มลูกค้าส่วนใหญ่ของ SEACON ID ยังคงเป็นกลุ่มราคาบ้าน 20 ล้านบาทขึ้นไป ซึ่งลูกค้ามีความต้องการพิเศษที่เป็นเอกลักษณ์ของตัวเอง และวางใจให้เราเป็นผู้ออกแบบให้ตาม Brief ของลูกค้า ซึ่งทางทีมงานสามารถสร้างสรรค์ให้ได้ในทุกส่วนอย่างครบวงจร อีกทั้งยังสร้างความเชื่อมั่น และความมั่นใจในด้านความปลอดภัยขั้นสุด ด้วยการทำประกันภัยระหว่างก่อสร้างให้กับลูกค้าด้วย ทั้งนี้ในปี 2566 SEACON ID วางแผนในการขยายฐานลูกค้าไปในต่างจังหวัดให้มากขึ้น เนื่องจากมีลูกค้าสนใจสอบถามเข้ามาอย่างต่อเนื่อง

“ซีคอนเป็นบริษัทรับสร้างบ้านรายแรกของประเทศไทยที่มีประสบการณ์มามากกว่า 62 ปี มีแบบบ้านให้เลือก 200 แบบ สร้างบ้านให้ลูกค้ามาแล้วกว่า 20,000 หลัง และเรายังไม่หยุดพัฒนาเพียงเท่านี้ เรายังคงมุ่งมั่นรักษามาตรฐานของผลงาน ที่มีความทันสมัยและตอบสนองทุกไลฟ์สไตล์ของลูกค้าอย่างต่อเนื่องต่อไป” มนู กล่าวทิ้งท้าย