Monday, August 25, 2025
Property

PRI ทำรายได้ 914 ล้านบาท พร้อมกำไรสุทธิ 240 ล้านบาท เดินหน้าสร้าง Super Living Service ตั้งเป้ารายได้ปี’66 กว่า 1,300 ล้านบาท

พรีโม เซอร์วิส โซลูชั่น หรือ PRI เผยผลประกอบการปี 2565 ทำรายได้ทั้งปี 914 ล้านบาท เติบโต 86% จากปี 2564 พร้อมกำไรสุทธิ 240 ล้านบาท เติบโต 115% หลังกลุ่มธุรกิจบริการจัดการเพื่อการอยู่อาศัยทั้งกลุ่มบริหารนิติบุคคล กลุ่มบริการนายหน้าอสังหาริมทรัพย์มาแรง มีลูกค้าโครงการเพิ่มต่อเนื่อง เดินหน้าขยายบริการอสังหาริมทรัพย์ทั้งต้นน้ำ-กลางน้ำ-ปลายน้ำต่อเนื่อง ทั้งผ่านการเติบโตเองและเติบโตร่วมกับพันธมิตร ตั้งเป้ารายได้ทั้งปี 1,300 ล้านบาท

จตุพร วิไลแก้ว ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พรีโม เซอร์วิส​ โซลูชั่น จำกัด (มหาชน) หรือPRI ผู้นำธุรกิจบริการด้านอสังหาริมทรัพย์สมัยใหม่แบบครบวงจร เปิดเผยถึงภาพรวมผลการดำเนินงานปี 2565 ว่า บริษัทฯมีรายได้รวมอยู่ที่ 914.6 ล้านบาท เติบโต 86.8% จากช่วงเดียวกันของปี 2564 พร้อมกำไรสุทธิ​ 240.1 ล้านบาท เติบโต 115.9% จากช่วงเดียวกันของปี 2564 คิดเป็นอัตรากำไรสุทธิ​ (Net Profit Margin) อยู่ที่ระดับ 26.3%

ทั้งนี้ กลุ่มธุรกิจที่สร้างรายได้ให้แก่บริษัทสูงที่สุดในปี 2565 ยังคงเป็นกลุ่มธุรกิจกลางน้ำ – บริการการจัดการเพื่อการอยู่อาศัย (Living Services) โดยมีรายได้จากกลุ่มธุรกิจดังกล่าว 412.7 ล้านบาท เติบโตถึง 112.8% จากปี 2564 หรือเติบโตขึ้นมากกว่าเท่าตัว เนื่องจากบริษัทขยายพอร์ตการให้บริการบริหารนิติบุคคลแก่นิติบุคคลอาคารชุดและหมู่บ้านจัดสรรในโครงการใหม่ๆ ได้อย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกัน ธุรกิจบริการนายหน้าอสังหาริมทรัพย์และบริการจัดหาผู้ร่วมทุน (JV) ก็มีรายได้เพิ่มขึ้นต่อเนื่องจากการฟื้นตัวภาพรวมของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์

ขณะที่กลุ่มธุรกิจที่มีอัตราการเติบโตสูงที่สุดในปี 2565 ได้แก่ กลุ่มธุรกิจต้นน้ำ – บริการก่อนเข้าอยู่อาศัย (Pre-Living Services) มีรายได้ 126.3 ล้านบาท เติบโตขึ้น 3 เท่าจากปี 2564 เนื่องจากเริ่มมีรายได้จากธุรกิจบริการออกแบบสถาปัตยกรรม งานวิศวกรรมโครงสร้าง และวิศวกรรมระบบประกอบอาคารแบบเต็มปีเป็นครั้งแรก มีฐานลูกค้าโครงการในธุรกิจที่ปรึกษาการบริการและควบคุมงานก่อสร้างเพิ่มขึ้น รวมถึงมีคอร์สฝึกอบรมใหม่ๆ ภายใต้ UPM Academy ทำให้มีรายได้เพิ่มขึ้น

สำหรับกลุ่มธุรกิจปลายน้ำ บริการหลังการขายที่อยู่อาศัย (Living & Earning Services) นั้น มีรายได้ 374.5 ล้านบาท เติบโต 48.0% เนื่องจากมีรายได้จากการให้บริการออกแบบและตกแต่งเพิ่มมากขึ้นทั้งภายในพื้นที่ส่วนกลางโครงการอสังหาริมทรัพย์และภายในพื้นที่พักอาศัย รวมถึงมีรายได้ใหม่ๆ จากจำนวนลูกค้าธุรกิจบริการทำความสะอาดเพิ่มขึ้น

จตุพร กล่าวว่า ในปี 2566 นั้น บริษัทฯ ยังคงเดินหน้าขยายอาณาจักร Super Living Service ขยายขอบเขตธุรกิจบริการใหม่ๆ ทั้งกลุ่มต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ ในหลากหลายมิติ ทั้งการเพิ่มบริการในเซ็กเมนต์ใหม่ การเปิดตัวธุรกิจใหม่ ตลอดจนการบุกตลาดต่างจังหวัด เพื่อให้บริษัทสามารถเติบโตได้อย่างต่อเนื่องและยั่งยืน รวมถึงก้าวเป็น Happy Maker ที่มีบริการพร้อมตอบโจทย์การสร้างความสุขให้ผู้บริโภคตลอดช่วงชีวิต

“เราจะเดินหน้าเติบโตทั้งแบบ Organic Growth และ Inorganic Growth โดยปัจจุบันยังคงมีการพูดคุยกับพันธมิตรเพื่อมองหาแนวทางสร้างสรรค์บริการใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง” จตุพร กล่าว

ณ สิ้นปี 2566 บริษัทฯ ตั้งเป้าจะมีโครงการที่เข้าไปบริหารนิติบุคคลและโครงการที่เข้าไปบริหารงานขายรวมกันมากกว่า 150 โครงการ ขณะเดียวกัน ตั้งเป้ารายได้ทั้งปี 2566 ไว้ที่ 1,300 ล้านบาท เติบโตจากปี 2564 ถึงราว 173.06% หรือเกือบ 3 เท่าตัว