ซีคอน ฝ่าต้นทุนผันผวนด้วยเทคโนโลยีพรีคาสท์ บุก EEC เต็มรูปแบบ คาดตลาดรับสร้างบ้านปี’69 ยังโต
ซีคอน หนึ่งในผู้นำตลาดธุรกิจรับสร้างบ้านของไทย เผยทิศทางธุรกิจรับสร้างบ้านปี 2569 ชูภาพรวมเติบโตต่อเนื่องแม้เผชิญต้นทุนก่อสร้างผันผวน ด้วยการเดินหน้า 4 กลยุทธ์หลัก ทั้งการขยายฐานลูกค้า เพิ่มประสิทธิภาพงานก่อสร้าง ยกระดับงานดีไซน์ และรุกตลาดใหม่ในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ที่กำลังขยายตัวตามโครงสร้างพื้นฐานของรัฐ โดยบริษัทเตรียมเปิดตัวแคมเปญ “EVERYONE CAN SELL” เพื่อเปิดช่องให้ประชาชนทั่วไปสามารถสร้างรายได้จากการแนะนำลูกค้ามาสร้างบ้าน สะท้อนดีมานด์บ้านคุณภาพที่ยังแข็งแรงในหลายพื้นที่ทั่วประเทศ

มนู ตระกูลวัฒนะกิจ กรรมการผู้จัดการบริษัท ซีคอน จำกัด เปิดเผยว่า ปี 2569 จะเป็นจังหวะสำคัญที่ผู้ประกอบการต้องบริหารความเสี่ยงด้านต้นทุนอย่างรอบด้าน ทั้งจากราคาวัสดุที่ปรับตัวสูงขึ้นและการขยับค่าแรงขั้นต่ำเป็น 400 บาทในกลางปี 2568 รวมถึงอัตราค่าจ้างช่างฝีมือในเมืองใหญ่ที่ยังอยู่ในระดับสูง แต่ซีคอนยังรักษาความสามารถในการแข่งขันได้จากเทคโนโลยีงานก่อสร้างและระบบโครงสร้างพรีคาสท์ที่ช่วยควบคุมคุณภาพ ลดของเสีย และเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานในทุกขั้นตอน
ผลงานของซีคอนในปี 2568 ยังสะท้อนพลังความต้องการบ้านคุณภาพอย่างชัดเจน โดย “Your Home Series 1 & 2” มียอดจองรวม 122 หลัง มูลค่ากว่า 408 ล้านบาท ทั้งยังได้รับความสนใจจากตลาดต่างจังหวัดที่มีศักยภาพ อาทิ ชลบุรี ลพบุรี กาญจนบุรี สระบุรี เขาใหญ่ นครราชสีมา และสุพรรณบุรี สะท้อนให้เห็นว่าความต้องการบ้านคุณภาพกำลังขยายตัวสู่จังหวัดโดยรอบของกรุงเทพฯ ขณะที่ “ปลูกเรือน Series” ที่เพิ่งเปิดตัวเมื่อกันยายนที่ผ่านมา ก็ได้รับความสนใจจากหลายจังหวัด ทั้งหัวเมืองใหญ่และพื้นที่รอบกรุงเทพฯ เช่น ชลบุรี นครราชสีมา สุพรรณบุรี และชัยนาท สะท้อนถึงตลาดบ้านคุณภาพที่กำลังกระจายตัวสู่ภูมิภาคมากขึ้น
ด้วยแรงส่งดังกล่าว ซีคอนจึงเตรียมเดินหน้าขยายบริการสู่พื้นที่ EEC แบบเต็มรูปแบบ ผ่านช่องทางออนไลน์ควบคู่กับการปรับแบบบ้านให้เข้ากับวิถีชีวิตและข้อกำหนดของพื้นที่เศรษฐกิจพิเศษ ซึ่งกำลังเติบโตพร้อมเมกะโปรเจ็กต์ของภาครัฐ นอกจากนี้ ตลาดบ้านพรีเมียม “SEACON ID” ก็ยังคงเป็นอีกหนึ่งหัวหอกสร้างรายได้ ด้วยงานออกแบบเฉพาะหลังราคา 20–40 ล้านบาท และมีลูกค้ากลุ่มไฮเอนด์เข้ามาติดต่ออย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ ซีคอนยังเดินหน้ายกระดับมาตรฐานการก่อสร้างภายใต้แนวคิด Green Construction ให้ความสำคัญกับวัสดุที่ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม การออกแบบบ้านช่วยประหยัดพลังงาน และการใช้โครงสร้างพรีคาสท์เพื่อลดเศษวัสดุในไซต์งาน ตอบโจทย์ผู้บริโภคยุคใหม่ที่มองหา “บ้านเพื่อคุณภาพชีวิต” มากกว่าแค่พื้นที่อยู่อาศัย
นอกจากนี้ ยังเปิดเกมรุกด้านการตลาดผ่านโครงการ SEACON Affiliate “Everyone Can Sell” ที่ช่วยให้ทุกอาชีพสามารถสร้างรายได้เสริมด้วยค่าตอบแทนสูงสุดล้านละ 5,000 บาท พร้อมระบบติดตามผลงานผ่าน Line Official ที่ออกแบบให้ใช้งานง่ายและโปร่งใส
“ในช่วง 1–2 ปีข้างหน้าคาดว่า ความต้องการบ้านคุณภาพจะยังเติบโตในทุกกลุ่ม ทั้งคนวัยทำงาน ครอบครัวที่ต้องการพื้นที่เพิ่ม ผู้ประกอบการ SME และกลุ่มลูกค้าที่ให้ความสำคัญกับพลังงานและสิ่งแวดล้อม ซีคอนพร้อมยกระดับมาตรฐานธุรกิจรับสร้างบ้านไทยด้วยนวัตกรรมและบริการที่เชื่อถือได้ เพื่อเติบโตไปพร้อมกับความต้องการของผู้บริโภคยุคใหม่ในอนาคต” มนู กล่าวทิ้งท้าย

