Saturday, April 20, 2024
Latest:
News

ครม. รับทราบผลคัดเลือกเอกชน ร่วมพัฒนาโครงการพัฒนาท่าเรือแหลมฉบัง ระยะที่ 3 ในส่วนของท่าเทียบเรือ F ของกพอ.

การประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน พ.ศ.2564  ที่มีพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี ณ ตึกสันติไมตรี (หลังนอก) ทำเนียบรัฐบาล โดย ครม.รับทราบมติคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (กพอ.) ครั้งที่ 3/2564 เมื่อวันที่ 4 ตุลาคม พ.ศ.2564 เกี่ยวกับผลการคัดเลือกเอกชน ผลการเจรจา และร่างสัญญาร่วมลงทุนของโครงการพัฒนาท่าเรือแหลมฉบัง ระยะที่ 3 ในส่วนของท่าเทียบเรือ F โดยกลุ่มกิจการร่วมค้า GPC ผ่านการประเมินรายเดียว

คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้

1. รับทราบมติคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (กพอ.) ครั้งที่ 3/2564 เมื่อวันที่ 4 ตุลาคม พ.ศ.2564 เกี่ยวกับผลการคัดเลือกเอกชนและผลการเจรจาโครงการพัฒนาท่าเรือแหลมฉบัง ระยะที่ 3 ในส่วนของท่าเทียบเรือ F ตามที่สำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.) เสนอ

2. ให้ สกพอ. การท่าเรือแห่งประเทศไทย (กทท.) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ความสำคัญกับการส่งเสริมสนับสนุนกิจกรรมเพิ่มมูลค่า (Value added Activities) การพัฒนาท่าเรือบกและการเชื่อมต่อโครงข่ายคมนาคมกับประเทศเพื่อนบ้านด้วยระบบขนส่งที่หลากหลาย และการบริหารจัดการขนส่งหลายรูปแบบเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและลดต้นทุนค่าขนส่งซึ่งจะช่วยพัฒนาและขยายพื้นที่หลังท่าของท่าเรือแหลมฉบังได้อย่างเต็มศักยภาพ รวมถึงกำกับให้เอกชนคู่สัญญาของโครงการฯ ดำเนินการตามสัญญาร่วมลงทุนโครงการฯ อย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะการลงทุนพัฒนาท่าเทียบเรือ F2 ในช่วงเวลาที่เหมาะสม เพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อการพัฒนาท่าเรือแหลมฉบังในภาพรวมต่อไป

สาระสำคัญของเรื่อง

ผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (กพอ.) ครั้งที่ 3/2564 เมื่อวันที่ 4 ตุลาคม พ.ศ. 2564 ซึ่งมีนายกรัฐมนตรีเป็นประธานการประชุม โดยที่ประชุมฯ ได้มีมติเห็นชอบผลการคัดเลือกเอกชน ผลการเจรจาและร่างสัญญาร่วมลงทุนที่ผ่านการตรวจพิจารณาของสำนักงานอัยการสูงสุด (อส.) ของโครงการพัฒนาท่าเรือแหลมฉบัง ระยะที่ 3 ในส่วนของท่าเทียบเรือ F (โครงการฯ) โดยเอกชนที่ได้รับการคัดเลือก คือ กลุ่มกิจการร่วมค้า GPC ซึ่งได้เสนอผลประโยชน์ตอบแทนทางการเงินของรัฐเป็นค่าสัมปทานคงที่ คิดเป็นมูลค่าปัจจุบันที่ 29,050 ล้านบาท และค่าสัมปทานผันแปรที่ 100 บาทต่อ TEU (ตู้สินค้าขนาด 20 ฟุต) ระยะเวลาร่วมลงทุน 35 ปี ทั้งนี้ อส. ไม่มีข้อขัดข้องด้วย