HBA จับตาต้นทุนก่อสร้างบ้านครึ่งหลังปี 2565 พร้อมแนะแนวทางรับมือต้นทุนบานปลาย

สมาคมธุรกิจรับสร้างบ้าน (HBA) เผยตลาดรวมรับสร้างบ้านในครึ่งปีหลังของปีนี้เติบโตในบ้านกลุ่ม 5-10 ล้านบาท ส่งผลยอดรับงานเกินเป้า ชี้โอกาสของผู้ซื้อสร้างบ้านในราคาที่ถูกเมื่อเทียบกับต้นทุนจริงที่สูงขึ้น

วรวุฒิ กาญจนกูล นายกสมาคมธุรกิจรับสร้างบ้าน (Home Builder Association : HBA) เปิดเผยว่า สถานการณ์การปรับขึ้นของต้นทุนสร้างบ้านเริ่มมีมาตั้งแต่ไตรมาสที่ 2 ของปี 2565 และคาดการณ์ว่าภาพรวมของต้นทุน ได้แก่ วัสดุก่อสร้าง ค่าขนส่ง เงินเฟ้อ การขาดแคลนแรงงาน จะยังคงเป็นปัจจัยที่มีผลต่อการขึ้นค่าก่อสร้างบ้านในช่วงครึ่งหลังของปี 2565

“ตลาดรับสร้างบ้านในครึ่งหลังของปี 2565 นี้ แม้ว่าจะมีหลายสิ่งที่เป็นอุปสรรค อาทิ ราคาวัสดุก่อสร้างที่ยังมีโอกาสปรับตัวสูงขึ้น จากราคาน้ำมัน ปัญหาเงินเฟ้อ อัตราดอกเบี้ยที่มีแนวโน้มสูงขึ้น แรงงานที่ยังขาดแคลน รวมถึงการปรับค่าแรงขั้นต่ำที่อาจจะมีการปรับในช่วงปลายปี อย่างไรก็ดี ภายใต้ข้อจำกัดที่มีอยู่นี้ ยังพบว่ายังคงมีความต้องการสร้างบ้าน ในกลุ่มกำลังซื้อปานกลางและรายได้สูง และวางแผนสร้างบ้านอยู่แล้ว ซึ่งกลุ่มนี้ไม่ได้รับผลกระทบ” วรวุฒิ กล่าว

เมื่อพิจารณาถึงตัวเลขการรับงานบริษัทสร้างบ้านในกลุ่มสมาคมฯ พบว่า ความต้องการสร้างบ้านไม่ได้ลดลง ส่วนใหญ่อยู่ในกลุ่มบ้านระดับราคา 5-10 ล้านบาท และตามด้วยกลุ่มบ้านหรูที่อยู่ในระดับ 10 ล้านบาทขึ้นไป ขณะที่ตลาดรับสร้างบ้านในต่างจังหวัด ตัวเลขรับงานจะอยู่ในกลุ่มบ้านระดับราคาประมาณ 2-3 ล้านบาทเป็นหลัก

“ลูกค้าที่มีความพร้อมก็ยังเดินหน้าปลูกสร้างบ้าน เพราะหากดำเนินการล่าช้าออกไปจะทำให้ราคาบ้านสูงขึ้นจากต้นทุนต่าง ๆ ที่ปรับตัว ทำให้ในภาพรวมตลาดรับสร้างบ้านในกลุ่มสมาคมฯ น่าจะยังไปได้ดี และเติบโตได้มากกว่าปี 2564 ซึ่งมูลค่าตลาดหลัก ๆ มาจากในกรุงเทพฯ และปริมณฑล” วรวุฒิ กล่าว

หากมองในภาพรวมตลาดรับสร้างบ้านจะไม่ได้รับผลกระทบมากนัก จากกลุ่มลูกค้าที่มีกำลังซื้อ โดยเฉพาะตลาดกลางและบ้านหรู แต่จากต้นทุนที่ปรับขึ้นอย่างต่อเนื่องจะส่งผลให้ราคาต้นทุนของการก่อสร้างบ้านในครึ่งปีหลังเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับต้นปีแรกประมาณ 3%

“ในยุคที่ต้นทุนการก่อสร้างบ้านสูงเป็นจังหวะที่ดีของการปลูกสร้างบ้าน โดยในช่วงครึ่งหลังของปีเป็นช่วงที่บริษัทรับสร้างบ้านส่วนใหญ่เร่งทำการตลาด จัดโปรโมชั่นแคมเปญต่าง ๆ เพื่อกระตุ้นยอดขายก่อนสิ้นปี จึงเป็นโอกาสของผู้ซื้อที่จะได้บ้านในราคาที่ถูกเมื่อเทียบกับต้นทุนจริงที่สูงขึ้น” วรวุฒิ กล่าว

วรวุฒิ กล่าวว่า ในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2565 ตลาดรับสร้างบ้านมีการเติบโตในทิศทางที่ดีขึ้น โดยเฉพาะบริษัทที่มีการทำการตลาดอย่างต่อเนื่อง มอบโปรโมชั่นที่คุ้มค่าให้กับผู้บริโภค รวมถึงตลาดรับสร้างบ้านในต่างจังหวัด โดยเฉพาะในภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคใต้ พบว่า ตลาดมีการเติบโตสูง

“หลายบริษัทที่เป็นสมาชิกของสมาคมธุรกิจรับสร้างบ้านสามารถทำยอดขายในช่วงครึ่งปีแรกได้ถึงเป้าหมายของทั้งปี ทั้งนี้ปัจจัยความสำเร็จมาจากการที่ผู้สร้างบ้านในปัจจุบันมีความต้องการสร้างบ้านกับบริษัทที่มีความน่าเชื่อถือ มีมาตรฐาน สร้างบ้านแล้วต้องได้บ้าน ไม่ถูกทิ้งงาน” วรวุฒิ กล่าวทิ้งท้าย