Friday, April 26, 2024
Latest:
Property

ออริจิ้นยกทัพ 5 ผู้บริหารบริษัทในเครือเปิดแผน “Origin Infinity” รุกธุรกิจทั่วประเทศ มุ่งเติบโต All Time High ตั้งเป้ายอดขายทั้งปี 45,000 ล้านบาท

กรุงเทพฯ – 7 มีนาคม 2566: ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ ยกทัพ 5 ผู้บริหารบริษัทในเครือ ประกาศทิศทางธุรกิจปี 2566 “Origin Infinity” สู่เส้นทาง Well-Being Lifetime Company สร้างการเติบโตและดูแลบริโภคแบบไม่สิ้นสุด กางแผนขยายอาณาจักรสินค้า-บริการครอบคลุมทั่วประเทศ สร้างชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นให้ผู้บริโภค พร้อมเปิดตัวโครงการบ้าน-คอนโดมิเนียมใหม่ 42 โครงการ มูลค่าโครงการ 50,000 ล้านบาท โรงแรม-อาคารสำนักงาน-มิกซ์ยูส มูลค่า REIT ประมาณการ 25,500 ล้านบาท โครงการโลจิสติกส์และคลังสินค้าอีก 4,500 ล้านบาท ครอบคลุมทุกเซ็กเมนท์ กระจายตัวใน 13 จังหวัดทั่วประเทศ เดินหน้ากลุ่มธุรกิจใหม่นอกเหนือจากที่อยู่อาศัยต่อเนื่อง ดูแลผู้บริโภคทุกเจเนอเรชัน ทุกช่วงชีวิต จับมือพันธมิตรพัฒนาการศึกษา-ชุมชน-สิ่งแวดล้อม เดินหน้าสร้างสังคมที่ดี มุ่งเป้า Net-Zero Emission 2044 ตั้งเป้ายอดขายทั้งปี 45,000 ล้านบาท พร้อมเป้ารายได้ 19,000 ล้านบาท

พีระพงศ์ จรูญเอก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ORI ผู้พัฒนาธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ครบวงจร เปิดเผยว่า จากวิสัยทัศน์ของบริษัทฯ ที่ต้องการขยายอาณาจักรธุรกิจ ไม่ใช่เพียงกลุ่มธุรกิจพัฒนาที่อยู่อาศัย แต่ครอบคลุมถึงเมกะเทรนด์ และธุรกิจใหม่ๆ เพื่อให้สามารถครอบคลุมทุกมิติการยกระดับการใช้ชีวิตของผู้บริโภค บริษัทจึงได้เตรียมเดินหน้าแผนธุรกิจปี 2566 ภายใต้แนวคิด “Origin Infinity” สร้างการเติบโตและการดูแลผู้บริโภคแบบไม่สิ้นสุด พัฒนาเครือออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ให้กลายเป็น Well-Being Lifetime Company หรือองค์กรที่มีธุรกิจครอบคลุมการดูแลผู้บริโภคตลอดช่วงชีวิต

โดยได้มอบหมายให้ผู้บริหารระดับสูงของหลากธุรกิจในเครือ อาทิ อภิสิทธิ์ สุนทรชูเกียรติ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออริจิ้น คอนโดมิเนียม จำกัด ดูแลกลุ่มธุรกิจสมาร์ทคอนโดมิเนียม ปิติ จารุกำจร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วัน ออริจิ้น จำกัด ดูแลกลุ่มธุรกิจที่สร้างรายได้ประจำ (Recurring Income Business) ผศ.นพ.ชวกิจ ภูมิบุญชู ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออริจิ้น เฮลท์แคร์ จำกัด ดูแลกลุ่มธุรกิจบริการด้านสุขภาพ และปธาน สมบูรณสิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอลฟา อินดัสเทรียล โซลูชั่น จำกัด ดูแลกลุ่มโลจิสติกส์และคลังสินค้า (Logistics & Warehouse) ร่วมเดินหน้าทุกธุรกิจสู่การเติบโตอย่างไม่สิ้นสุด

พีระพงศ์ กล่าวว่าสำหรับแผนงาน Origin Infinity มุ่งขับเคลื่อน 3 ด้านหลัก ได้แก่ 1.การขยายสินค้าและบริการให้ครอบคลุมพื้นที่ทั่วประเทศ (Nationwide Serve) ยกทัพธุรกิจในเครือกระจายสู่ต่างจังหวัดเพื่อพัฒนาการใช้ชีวิตที่ดีขึ้น (Better Living) ให้แก่คนในพื้นที่ต่างๆ ทั่วประเทศ เริ่มจากกลุ่มธุรกิจพัฒนาที่อยู่อาศัยเพื่อการขาย เตรียมเปิดตัวโครงการใหม่แบบ All Time High รวมทั้งสิ้น 42 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 50,000 ล้านบาท ครอบคลุมพื้นที่ 13 จังหวัดทั่วประเทศ แบ่งเป็นโครงการคอนโดมิเนียม 22 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 27,500 ล้านบาท และโครงการบ้านจัดสรร 20 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 22,500 ล้านบาท ขณะเดียวกัน จะเริ่มพัฒนาโครงการโรงแรม อาคารสำนักงาน และศูนย์การค้าใหม่ในปีนี้ มูลค่า REIT ประมาณการรวม 25,500 ล้านบาท โครงการกลุ่มโลจิสติกส์และคลังสินค้า (Logistics & Warehouse) มูลค่า REIT ประมาณการรวม 4,500 ล้านบาท พร้อมทยอยนำธุรกิจที่เกี่ยวข้อง ทั้งธุรกิจบริการที่เกี่ยวข้องกับอสังหาริมทรัพย์ครบวงจรในเครือบริษัท พรีโม​ เซอร์วิส โซลูชั่น จำกัด (มหาชน) ธุรกิจบริการสุขภาพภายใต้ออริจิ้น เฮลท์แคร์ ไปให้บริการในต่างจังหวัดด้วย

“ไฮไลท์ของปีนี้ คือการนำหลายแบรนด์ที่เราไม่ได้เปิดตัวมาระยะหนึ่ง กลับมาร่วมบุกตลาดเพื่อให้ครอบคลุมลูกค้าหลากเซ็กเมนท์และสอดคล้องกับสภาพความต้องการของตลาดในปีนี้ อาทิ ดิ ออริจิ้น กลับมาเจาะตลาดคอนโดมิเนียมเพื่อคน Gen Z และกลุ่มที่เพิ่งเริ่มต้นทำงานหรือ First Jobber เบลกราเวีย กลับมาเจาะตลาดบ้านเดี่ยวลักชัวรีรองรับดีมานด์หลากทำเล ขณะเดียวกัน ปีนี้จะมีการบุกไปยังจังหวัดใหม่ๆ ที่เราไม่เคยไปบุกมาก่อน รวมถึงมีโครงการไฮไลต์ เป็นโครงการมิกซ์ยูส กระจายตัวในหัวเมืองใหญ่หลายจังหวัด เช่น ภูเก็ต เชียงใหม่ ขอนแก่น โคราช ผสมผสานหลากหลายสูตร เช่น บ้าน คอนโด โรงแรม ศูนย์การค้า บริการสุขภาพ ต่อยอดความสำเร็จของการพัฒนาโครงการออริจิ้น ดิสทริค แหลมฉบัง-ศรีราชา และออริจิ้น สมาร์ท ซิตี้ ระยอง”
พีระพงศ์ กล่าว

2.การขยายจักรวาลธุรกิจใหม่ให้มีเส้นทางเติบโตอย่างต่อเนื่อง (Multiverse Expansion) มุ่งพัฒนาช่วงชีวิตที่ดีขึ้น (Better Lifetime) ต่อยอดจากแผน Origin Multiverse ในปี 2565 ด้วยการขยายธุรกิจนอกเหนือจากที่อยู่อาศัยให้มีเส้นทางการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ครอบคลุมการดูแลคนทุกเจเนอเรชั่น ทุกช่วงจังหวะของชีวิต ตั้งแต่ยังโสด เพิ่งแต่งงาน ครอบครัวขยายตัว จนเกษียณอายุ ทุกแพลตฟอร์ม ทั้งออฟไลน์และออนไลน์ นำพาบริษัทย่อยที่ดูแลธุรกิจใหม่ๆ เติบโตเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์อย่างต่อเนื่องปีละ 1 บริษัท หลังจากนำบริษัท บริทาเนีย จำกัด (มหาชน) หรือ BRI และบริษัท พรีโม เซอร์วิส โซลูชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ PRI เข้าตลาดได้แล้วในปี 2564 และ 2565 (ตามลำดับ) ทั้งนี้ตามแผนงาน ในปี 2566 มีแผนส่งบริษัท วัน ออริจิ้น จำกัด เป็นธุรกิจถัดไป ตามด้วยบริษัท แอลฟา อินดัสเทรียล โซลูชั่น จำกัด บริษัท ออริจิ้น เฮลท์แคร์ จำกัด และบริษัท ยูไนเต็ด โปรเจคต์ แมเนจเมนท์ จำกัด โดยวัน ออริจิ้น จะมีโครงการสร้างเสร็จใหม่ในปีนี้ทั้งโรงแรม อาคารสำนักงาน อย่างต่อเนื่อง ขณะที่กลุ่มเฮลท์แคร์จะเริ่มวางรากฐานเปิดตัวธุรกิจใหม่ๆ อาทิ คลินิกทันตกรรม คลินิกความงาม คลินิกสัตว์เลี้ยง คลินิกเส้นผม กระจายตัวไปพร้อมกับโครงการที่อยู่อาศัยและมิกซ์ยูสเครือออริจิ้น โดยมีแผนเปิดสาขารวมทั้งหมด 25 แห่งในสิ้นปี 2566

3.การดูแลสังคม (Social Attention) ร่วมใส่ใจสังคมและสิ่งแวดล้อมในหลากหลายมิติ เพื่อสร้างสังคมที่ดีขึ้น (Better Society) ได้แก่ ด้านการพัฒนาบุคลากร (Talent Development) จับมือกับสถาบันการศึกษาต่างๆ สร้าง Origin Valley ร่วมกับสถาบันการศึกษานั้นๆ อาทิ มหาวิทยาลัยขอนแก่น สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) เพื่อเป็นพื้นที่พัฒนาทักษะคนรุ่นใหม่ให้มีความรู้ความสามารถที่ตรงกับความต้องการขององค์กรและตลาดแรงงาน รวมถึงแลกเปลี่ยนองค์ความรู้เพื่อพัฒนาบุคลากรในเครือออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ที่มีมากกว่า 3,000 คน ให้พร้อมเติบโตอย่างแข็งแกร่ง

ด้านการพัฒนาชุมชน (Community Development) ดำเนินโครงการ Origin Give เพื่อสร้างโอกาสและส่งมอบสิ่งดีๆ แก่ชุมชน อาทิ การมอบทุนการศึกษา การมอบอุปกรณ์การแพทย์ การลงพื้นที่พัฒนาโรงเรียน และด้านการพัฒนาอย่างยั่งยืน (Sustainable Development) ร่วมเดินหน้าแผน Net-Zero Emission 2044 ซึ่งเร็วกว่าบริษัทส่วนใหญ่ที่มีNet-Zero Emission 2050 เพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในทุกมิติ อาทิ การออกแบบโครงการที่ประหยัดพลังงานและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม การเลือกใช้วัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยจับมือกับบริษัทที่ผลิตวัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เพื่อลดปริมาณขยะ ลดการใช้ไฟฟ้าทั้งในออฟฟิศและสำนักงานขาย เริ่มติดตั้ง Solar Roof และ EV Charger ในโครงการใหม่ๆ

อภิสิทธิ์ สุนทรชูเกียรติ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออริจิ้น คอนโดมิเนียม จำกัด ดูแลกลุ่มธุรกิจสมาร์ทคอนโดมิเนียม กล่าวว่า ปีนี้จะเปิดตัวโครงการ 22 โครงการ แบ่งเป็นครึ่งปีแรก 14 โครงการ และครึ่งปีหลัง 8 โครงการ ครอบคลุมพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล 65% และต่างจังหวัด 35% (พื้นที่ EEC 12%) โดยเฉพาะหัวเมืองสำคัญที่้มียอดการโอนกรรมสิทธิ์เติบโตอย่างต่อเนื่อง ซึ่งคาดว่าในปีนี้จะเติบโต 2 ดิจิตในตลาดกลุ่มนี้

ปธาน สมบูรณสิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอลฟา อินดัสเทรียล โซลูชั่น จำกัด กล่าวว่า ในปี 2021-2022 บริษัทฯ มีโครงการทั้งหมด 5 โครงการ โดยโครงการที่มีความโดดเด่นและน่าสนใจ คือ ALPHA KM 22 เริ่มสร้างในปี 2022 เนื่องจากเป็นคลังสินค้าห้องเย็นที่มีอุณหภูมิหลากหลาย ติดตั้งระบบ Automation ใช้หุ่นยนต์บริการแทนคน

ปีนี้บริษัทฯ จะขยายพื้นที่้เพิ่มขึ้นอีก 2.2 แสนตรม. ใน 7 โครงการ ครอบคลุมพื้นที่ EEC กรุงเทพฯ อยุธยา ฉะเชิงเทรา ปทุมธานี สมุทรปราการ และระยอง ทำให้มีพื้นที่ทั้งสิ้น 440,000 ตรม.โดยตั้งเป้าพัฒนาพื้นที่เป็น 1 ล้านตรม.ภายใน 5 ปี

“จากแผนงาน Origin Infinity บริษัทฯ เชื่อมั่นว่าจะช่วยสร้างการเติบโตที่แข็งแกร่งในทุกมิติ และเป็นการกระจายการเติบโตพร้อมรับมือทุกสภาวะเศรษฐกิจ ปี 2566 นี้ จึงตั้งเป้าหมายยอดขายโครงการที่อยู่อาศัยไว้ที่ 45,000 ล้านบาท และเป้ารายได้รวมอยู่ที่ 19,000 ล้านบาท หรือเป็นเป้าหมายเติบโต All Time High” พีระพงศ์​ กล่าวสรุป