3 สมาคม ผนึกกำลังจัดงานมหกรรมบ้านและคอนโด ครั้งที่ 48 ส่งท้ายปีจับตานโยบายรัฐบาลใหม่ หนุนตลาดอสังหาฯ ปี’69 ฟื้นตัว
สมาคมอาคารชุดไทย ร่วมด้วย สมาคมอสังหาริมทรัพย์ไทย และสมาคมธุรกิจบ้านจัดสรร ประกาศความพร้อมจัดงาน “มหกรรมบ้านและคอนโด ครั้งที่ 48” ระหว่างวันที่ 30 ตุลาคม – 2 พฤศจิกายน 2568 ณ Exhibition Hall 5 ชั้น LG ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ เผยมาตรการรัฐ กำลังซื้อภายในประเทศ และตลาดต่างชาติเป็นตัวแปรสำคัญที่ภาคเอกชนเชื่อมั่นว่าจะช่วยฟื้นความเชื่อมั่นและกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงโค้งสุดท้ายของปี 2568

ประเสริฐ ดุลยสาธิต ประธานสมาคมอาคารชุดไทย กล่าวว่า อุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์ถือว่ามีบทบาทสำคัญต่อการพัฒนาประเทศ โดยใช้วัสดุที่เป็น Local Contents สูงถึง90% มีการจ้างแรงงาน 1 ล้านอัตรา สำหรับสถานการณ์อสังหาริมทรัพย์ไทยในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2568 ติดลบ 10% ธอส.อัดฉีด2.4แสนล้านบาท แต่ในช่วงครึ่งปีหลังน่าจะมีโอกาสเติบโต 10% ภายใต้มาตรการจากภาครัฐ 2 เรื่อง คือ LTV และมาตรการลดค่าโอนและจำนอง 0.01% บ้านราคาไม่เกิน 7 ล้านบาท และการ Reject Rate ของธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) กว่า 20% ขณะที่ธนาคารอื่นปฏิเสธ กว่า 50% ทั้งนี้ในปี 2567 NPL (Non-Performing Loan) อยู่ที่ 7% แต่ในปี 2568 NPL สูงขึ้นเป็น 8% ทำให้ตลาดบนมีการแข่งขันสูง ขณะที่ตลาดกลางและล่างหายไป


“การจัดงานครั้งนี้เป็นความร่วมมือกันระหว่างผู้ประกอบการรายใหญ่และรายเล็ก เป็นจังหวะเวลาในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจในโค้งสุดท้าย ทำให้มีโมเมนตัมฟื้นตัวอย่างโดดเด่น การที่สามารถจำหน่ายพื้นที่บูธ 330บูธ เต็มพื้นที่ 100% ก่อนเริ่มงาน ถือว่าแรงสุดในรอบ 10ปี ในงานจะมีบ้านพร้อมอยู่และเปิดตัวโครงการใหม่ครั้งแรกในรอบหลายปีหลายโครงการ รวมทั้งโครงการเดิมมากกว่า 1,000 โครงการ รวมมูลค่า 7 แสนล้านบาท” ประเสริฐ กล่าว

องคฤทธิ์ พรหมโยธี ประธานจัดงานมหกรรมบ้านและคอนโด ครั้งที่ 48 เปิดเผยว่า การจัดงานครั้งนี้ไม่เพียงเป็นเวทีแสดงสินค้าด้านที่อยู่อาศัย แต่ยังเป็น สนามนโยบาย” ที่ภาคอสังหาริมทรัพย์ จะจับตาทิศทางการทำงานของรัฐบาลใหม่ว่า จะขับเคลื่อนมาตรการเศรษฐกิจใดเป็นแรงส่งสำคัญในปี 2569 โดยปีนี้เป็นความท้าทายคือการส่งไม้ต่อจากครั้งความสำเร็จที่ผ่านมา จากการสร้างยอดขายสูงสุดในประวัติการณ์กว่า 20,000 ล้านบาทมาแล้ว ดังนั้นการจัดงานในครั้งนี้ จึงได้วางกลยุทธ์และเป้าหมายการจัดงานภายใต้แนวคิด ‘New Marketplaces, Serve Supply on Every Demand’ และกลยุทธ์ ‘Fast Track ทางด่วนของคนอยากมีบ้าน’ ที่ออกแบบขั้นตอนซื้อบ้านหรือคอนโดให้สะดวก ง่าย รวดเร็ว และตอบโจทย์ทุกความต้องการของผู้บริโภค

“หัวใจสำคัญของการจัดงานปีนี้คือ การเชื่อมโยงดีมานด์ของผู้บริโภคกับซัพพลายคุณภาพจากผู้ประกอบการในจังหวะที่ตลาดกำลังรอฟังทิศทางนโยบายรัฐ โดยงานนี้ไม่เพียงดึงดูดผู้ซื้อบ้านครั้งแรก แต่ยังตอบโจทย์ผู้ที่ต้องการอัพเกรดที่อยู่อาศัย และยังดึงนักลงทุนทั้งในและต่างประเทศ อีกทั้งในครั้งนี้ความเชื่อมั่นผู้ประกอบการสะท้อนแรงส่งตลาด โดยพื้นที่บูธมหกรรมบ้านและคอนโด ครั้งที่ 48 ได้รับการตอบรับอย่างร้อนแรงจากผู้ประกอบการรายใหญ่และ แบรนด์ชั้นนำ จนสามารถจำหน่ายพื้นที่บูธได้เต็ม 100% เต็มความจุ330 บูธ ก่อนงานเริ่ม ซึ่งถือเป็นสัญญาณชัดเจนว่า ภาคเอกชนมั่นใจในพลังการซื้อขายช่วงปลายปี 2568 โดยในงานจะมี AI ช่วยระบบลงทะเบียน และใช้ข้อมูลในครั้งนี้และในอนาคต ทำให้ลูกค้าเข้าถึงส่วนลดในงาน จะทำให้งานคึกคักมากยิ่งขึ้น” องค์ฤทธิ์ กล่าว
องค์ฤทธิ์ กล่าวต่อว่า การที่บูธเต็มเร็วกว่าที่คาดการณ์สะท้อนว่า “ผู้ประกอบการมองงานครั้งนี้เป็นโอกาสสำคัญในการปลุกกำลังซื้อ และสร้างแรงส่งต่อยอดไปถึงต้นปีหน้า สิ่งที่น่าจับตาคือเทรนด์ผู้บริโภคและตลาดต้นปี 2569 ไม่ว่าจะเป็นดีมานด์จากคนรุ่นใหม่ ที่มองหาที่อยู่อาศัยราคาจับต้องได้ กลุ่มอัพเกรดที่ย้ายจากคอนโดสู่บ้านเดี่ยว รวมทั้งนักลงทุนที่สนใจอสังหาริมทรัพย์ไทยว่าเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย กลุ่มตลาดต่างชาติ โดยเฉพาะชาวจีน ไต้หวัน ญี่ปุ่น และยุโรป ที่มองหาบ้านพักตากอากาศและที่อยู่อาศัยเพื่อเกษียณในไทย ทั้งหมดนี้ถือเป็นตัวแปรสำคัญที่จะกำหนดทิศทางตลาดในปี 2569”
หากให้วิเคราะห์แนวโน้มความสำเร็จจากทางนโยบายรัฐ ท่องเที่ยวและตลาดต่างชาติ เป็นที่คาดการณ์ได้ว่า ความสำเร็จของงานมหกรรมบ้านและคอนโด ครั้งที่ 48 จะได้แรงหนุนจากปัจจัยหลัก 5 ประการ ได้แก่
1.มาตรการภาครัฐ: คาดว่าจะมีการออกนโยบายใหม่อย่างต่อเนื่อง ทั้งการลดค่าธรรมเนียมการโอนและจดจำนอง รวมถึงมาตรการด้านสินเชื่อเพื่อเร่งกำลังซื้อ
2.ภาพรวมเศรษฐกิจไทย มีสัญญาณฟื้นตัวจากการลงทุนและการบริโภคเอกชน
3.ภาคการท่องเที่ยว: คาดว่าปี 2569 ไทยจะต้อนรับนักท่องเที่ยวกว่า 40 ล้านคน ซึ่งจะเป็นแรงเสริมกำลังซื้อในตลาดบ้าน คอนโด โดยเฉพาะในเมืองท่องเที่ยวเมืองหลัก
4.ตลาดลูกค้าต่างชาติ: ความต้องการอสังหาริมทรัพย์ไทยยังคงสูง โดยเฉพาะในทำเลกรุงเทพฯ พัทยา ภูเก็ต และเชียงใหม่
5.จุดแข็งของงานมหกรรมบ้านและคอนโด นอกจากจะเป็นแหล่งรวมสินค้าที่มีความหลากหลายจากผู้พัฒนาโครงการชั้นนำระดับประเทศ ที่มีตัวเลือกของสินค้าให้มากที่สุดในประเทศไทย ทางผู้จัดงาน 3 สมาคม ยังมีสิทธิพิเศษของรางวัลมากมาย อาทิ เช่น ส่วนลดเงินสด เครื่องใช้ไฟฟ้า รวมมูลค่ากว่า 8.4 แสนบาท สำหรับผู้ที่จองซื้อภายในงานได้มีสิทธิ์ร่วมลุ้น นอกเหนือจากแต่ละโครงการที่ได้ขนทัพอัดโปรโมชั่นภายในงานนี้

ด้านคมสัน วุฒิพงศ์ ประธานฝ่ายประชาสัมพันธ์ งานมหกรรมบ้านและคอนโด ครั้งที่ 48 กล่าวว่า ผู้บริโภคยุคใหม่ โดยเฉพาะกลุ่ม Gen Y และ Gen X ไม่ได้มองหาที่อยู่อาศัยเพียงเพื่ออยู่อาศัยเท่านั้น แต่ยังให้ความสำคัญกับความยั่งยืน คุณภาพชีวิต และความคุ้มค่าในระยะยาว อสังหาริมทรัพย์ที่ได้รับความสนใจมากขึ้นคือโครงการที่ประหยัดพลังงาน ใช้วัสดุก่อสร้างที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และบูรณาการเทคโนโลยีอัจฉริยะ (Smart Living) เพื่อการอยู่อาศัยอย่างยั่งยืน
เพื่อสอดรับกับพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป ผู้จัดงานจึงวางกลยุทธ์ประชาสัมพันธ์เชิงรุก ครอบคลุมทุกช่องทางทั้งออนไลน์และออฟไลน์ ไม่ว่าจะเป็น Facebook, Instagram, Line OA, YouTube, TikTok และ Google Ads รวมถึงโฆษณาทางโทรทัศน์ และสื่อในระบบขนส่งมวลชน BTS พร้อมทั้งร่วมมือกับ KOL และอินฟลูเอนเซอร์อสังหาริมทรัพย์ชั้นนำ เช่น GURU LIVING, SALE HERE, เพจสถานีเมืองนนท์,เพจรังสิตซิตี้ที่นี่ปทุมธานี,เพจที่นี่สมุทรปราการ,เพจกินเที่ยวนครปฐม,เพจที่นี่แปดริ้ว HOME ZOOMER และ HOMEZOOMII เพื่อเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคที่กำลังตัดสินใจซื้อบ้าน และคอนโดอย่างจริงจัง
“ปีนี้เราคาดว่าจะมีผู้เข้าชมงานมากกว่า 30,000 – 40,000 คน ตลอด 4 วัน โดยคาดการณ์มูลค่าการซื้อขาย จองบ้านและคอนโดภายในงานเทียบเท่ากับต้นปีหรือมากกว่า ซึ่งสะท้อนจากความเชื่อมั่นของผู้บริโภคต่อการกลับมาของตลาดอสังหาริมทรัพย์ ในช่วงปลายปีอย่างทุกครั้ง” คมสัน กล่าว

พลอยพัทธ์ แต่ดุลยสาธิต ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท PROPEXUS จำกัด ซึ่งเป็น Techและ AI Partner ของการจัดงานในปีนี้ กล่าวว่า ปัจจุบันกลุ่มผู้บริโภคที่ร่วมงานมหกรรมบ้านและคอนโดมีความหลากหลายมากขึ้น โดยเฉพาะกลุ่ม GEN Zในปีนี้บริษัทฯ จึงจัดเก็บ Data Realtime บนแพลตฟอร์มที่พัฒนาขึ้นมาโดยเฉพาะด้วยระบบ AI เพื่อใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลคาแรกเตอร์ของผู้บริโภคแต่ละคน จะได้นำเสนอผลิตภัณฑ์ได้ตรงตามความต้องการ แพลตฟอร์มดังกล่าวยังสามารถเชื่อมต่อกับเรียลเอสเตทรายอื่นๆได้ด้วย โดยคาดว่าข้อมูลดังกล่าว จะเป็น Big Data ของอสังหาริมทรัพย์ไทยที่ภาครัฐสามารถนำไปอ้างอิงได้
“ในฐานะตัวแทนผู้จัดงาน งานมหกรรมบ้านและคอนโด ครั้งที่ 48 นี้ ด้วยการผนึกกำลังของ 3 สมาคม และจากการตอบรับเต็มพื้นที่จากผู้ประกอบการ และการจับจังหวะสำคัญของนโยบายรัฐ สถานการณ์ภายในประเทศที่เกิดขึ้นเหล่านี้ส่งผลให้งานมหกรรมบ้านและคอนโด จึงถูกมองว่าไม่ใช่เพียงการแสดงสินค้าอสังหาฯ แต่คือบารอมิเตอร์ของตลาดอสังหาฯไทยที่จะสะท้อนชัดเจนว่า ปี 2569-2570 ภาคอสังหาฯ จะกลับมาเป็นเครื่องยนต์หลักในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยได้มากน้อยอย่างไรต่อไปข้างหน้านี้ องคฤทธิ์ กล่าวทิ้งท้าย