น้ำที่พุ่งสูงจนแตะชั้นสองในหลายพื้นที่ของหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา แหล่งท่องเที่ยวชื่อดังของไทยทางภาคใต้ ไม่ได้พัดพาเพียงทรัพย์สินนับหมื่นหลังให้สูญหาย แต่ยังเผยให้เห็นความเปราะบางของเมืองต่อภัยพิบัติครั้งใหญ่ ถนนที่เคยคึกคักกลายเป็นแนวขยะยาวเหยียด บ้านเรือนที่เคยอบอุ่นเหลือเพียงผนังชื้นและเฟอร์นิเจอร์พังทลาย ขณะเดียวกันระบบช่วยเหลือที่ควรเคลื่อนตัวทันทีกลับติดขัดด้วยขั้นตอนและการประสานงานที่ไม่ทันต่อวิกฤต ดร.ชูเลิศ จิตเจือจุน อุปนายกสมาคมวิศวกรโครงสร้างแห่งประเทศไทย เปิดเผยในรายการ “เจาะข่าวเช้านี้” ทางสถานีวิทยุจุฬาฯ ว่า ภาพรวมสถานการณ์อุทกภัยครั้งใหญ่ในอำเภอหาดใหญ่ ได้สร้างความเสียหายต่อบ้านเรือนและสาธารณูปโภคในวงกว้าง ซึ่งเมื่อนำมาเทียบกับกรณีน้ำท่วมเชียงรายเมื่อปีที่ผ่านมา แม้ทั้งสองเหตุการณ์จะมีลักษณะคล้ายกันในบางประเด็น แต่ความแตกต่างสำคัญอยู่ที่