Saturday, April 27, 2024
Latest:
Property

สกาย กรุ๊ป เปิดตัว “เมทเธียร์รุกธุรกิจ Smart Facility Management แบบครบวงจรรายแรกของไทย

บริษัท สกาย ไอซีที จำกัด (มหาชน) หรือ สกาย กรุ๊ป (SKY Group) ต่อยอดความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะ (Smart Security) สู่ธุรกิจใหม่ เปิดตัวบริษัทย่อยภายใต้ชื่อ บริษัท เมทเธียร์ จำกัด หรือ “Metthier” เพื่อดำเนินธุรกิจการบริหารจัดการอสังหาริมทรัพย์อัจฉริยะ (Smart Facility Management) แบบครบวงจรรายแรกในประเทศไทย ตั้งเป้าขยายฐานลูกค้าจากรัฐบาลสู่กลุ่มเจ้าของธุรกิจ และผู้พัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ขนาดใหญ่ใน 5 กลุ่มหลัก ได้แก่ 1.โรงงานอุตสาหกรรม 2.โครงการมิกซ์ยูส (Mixed-Use) 3.โรงพยาบาล 4.สถาบันการเงิน 5.สถานศึกษา

ขยล ตันติชาติวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมทเธียร์ จำกัด  กล่าวว่า เมทเธียร์ ดำเนินธุรกิจ ต่อยอดจุดแข็งด้านเทคโนโลยีที่ส่งต่อจากสกาย กรุ๊ป ทั้งฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ ด้วย การนำเทคโนโลยีแห่งอนาคต เช่น AI CCTV Smart Incident Management Digital Twin 3D Visualization Indoor Mapping AIoT and Robotics เข้ามาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของบุคลากรและระบบภายในอาคาร รวมทั้งได้ผสานการทำงานกับทางทีมงานและความเชี่ยวชาญเข้ากับ บริการเดิมของบริษัท รักข์สยาม (SAMCO) ที่ สกาย กรุ๊ป ได้เข้าซื้อกิจการเมื่อเดือนกรกฎาคม พ.ศ.2566 ที่ผ่านมา ซึ่ง SAMCO มีประสบการณ์ในการดูแลรักษาอาคารและสถานที่ชั้นนำของประเทศไทย พร้อมบุคลากรกว่า 6,000 คน เข้ามาเป็นหนึ่งขุมพลังหลักของการให้บริการ และตั้งเป้าเพิ่มบุคลากรมากกว่า 10,000 คน ภายในต้นปี พ.ศ.2566 เพื่อเสริมความแข็งแกร่งให้เมทเธียร์ กลายเป็นบริษัทแรกที่ดำเนินธุรกิจการบริหารจัดการอสังหาริมทรัพย์อัจฉริยะ (Smart Facility Management) แบบครบวงจรรายแรกในประเทศไทย

โดย เมทเธียร์ ได้ต่อยอดความเชี่ยวชาญของทีมบุคลากรคุณภาพและเทคโนโลยีขั้นสูงที่พัฒนาขึ้น สู่บริการ Smart Facility Management ใน 3 รูปแบบ ได้แก่

1.ระบบบริหารจัดการผู้มาติดต่อ (Visitor Management Solutions) ใช้เทคโนโลยีการจดจำใบหน้า (Face Recognition) ที่มีความแม่นยำสูง สามารถจัดการและรายงานข้อมูลผู้มาติดต่อได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้ผู้มาติดต่อได้รับประสบการณ์ที่ดีและปลอดภัยมากยิ่งขึ้นทันที พร้อมเชื่อมต่อเข้ากับ 2 ระบบ ได้แก่ 1)ระบบควบคุมการเข้าออกแบบอัตโนมัติ (Access Control Solution) ด้วยระบบประตูกั้นสแกนใบหน้า (Face Recognition Turnstile) มีการตรวจจับและระงับบุคคลที่ไม่ได้รับอนุญาตเข้ามาในพื้นที่ ผสานความแม่นยำของการพิสูจน์ตัวตนด้วยใบหน้าจากการประมวลผลด้วย AI และเก็บข้อมูลในคลาวด์ เพื่อการเข้าถึงข้อมูลได้ปลอดภัยและรวดเร็ว และ 2.) ระบบจอดรถอัจฉริยะ (Smart Parking Solution) ด้วยระบบการจดจำเลขทะเบียนรถ (License Plate Recognition: LPR) ใช้ความแม่นยำของ AI ระบุและแปลอักขระทะเบียนรถได้เรียลไทม์ นอกจากนี้ยังเชื่อมโยงกับระบบลงทะเบียนผู้มาติดต่อ เพื่อระบุบุคคลเข้า-ออกอาคารผ่านทะเบียนรถได้อย่างมีประสิทธิภาพ และสามารถวิเคราะห์ข้อมูลการจอดรถทั้งหมดพร้อมแนะนำช่องจอดที่เหมาะสมที่สุด เสริมประสิทธิภาพการวางแผนพื้นที่จอดรถและประหยัดเวลาผู้ใช้บริการ

2.การให้บริการด้านความปลอดภัย (Security as a Service) ให้บริการรักษาความปลอดภัยระดับสูง ด้วยเทคโนโลยีและเจ้าหน้ารักษาความปลอดภัยที่ได้รับการอบรมด้านความปลอดภัยอย่างเข้มข้น ให้ผู้ใช้บริการได้รับการดูแลและปลอดภัยในทุกสถานการณ์ ประกอบด้วย 1) ระบบบริหารจัดการเหตุการณ์ฉุกเฉินอัจฉริยะ (Smart Incident Management) ทำงานเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ Smart IoT โดยใช้ AI ในการวิเคราะห์เพื่อกำหนดลำดับเหตุการณ์ที่มีความสำคัญ แล้วแจ้งเตือนไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างทันท่วงที 2) เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย (Security Manpower) ด้วยทีมงานที่มีประสบการณ์ด้านบริการรักษาความปลอดภัยอย่างยาวนาน และความสามารถเฉพาะด้านจากการฝึกอบรม เพื่อให้ดูแลความปลอดภัยได้อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมให้บริการลูกค้าตลอด 24 ชั่วโมง และ 3) การบริหารจัดการทรัพย์สินมูลค่าสูง (High Value Asset Management) สำหรับขนส่งทรัพย์สินที่มีค่าของบุคคล องค์กร และสถาบันการเงินชั้นนำอย่างมีประสิทธิภาพ โดยมีระบบการบริหารจัดการที่ยอดเยี่ยม ร่วมกับรถขนส่งเกราะที่ถูกออกแบบเพื่อความปลอดภัยสูงสุด

3.การบริหารจัดการอสังหาริมทรัพย์ (Facility Management Service) ยกระดับการทำงานของการอำนวยความสะดวกภายในอาคารสถานที่ เพื่อให้ผู้รับบริการมั่นใจว่าทุกอาคารสำนักงานและสถานที่ต่างๆ ที่อยู่ภายใต้การดูแลของ Metthier มีสภาพแวดล้อมที่ดีและสะอาดอยู่เสมอ ด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย รวมถึงผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน ทั้งเคมีอุปกรณ์และเครื่องจักรครบวงจร พร้อมมอบบริการที่น่าประทับใจและประสบการณ์ที่เหนือว่าแก่ผู้ใช้บริการ ประกอบด้วย 1) พนักงานรักษาความสะอาด (Cleaning Manpower) ให้บริการทีมแม่บ้านที่มีความเชี่ยวชาญและถูกคัดเลือกฝึกอบรมอย่างเข้มข้น เพื่อให้มีความเชี่ยวชาญในการให้บริการทำความสะอาดในมาตรฐานที่สูงสุด 2) พนักงานทำความสะอาดเฉพาะทาง (Cleaning Specialist) เช่น บริการทำความสะอาดกระจกอาคารสูงทั้งภายในและภายนอกอาคาร รวมถึงงานเฉพาะทางต่างๆ ที่ต้องใช้ความเชี่ยวชาญสูงในการดำเนินการ เพื่อให้ผู้รับบริการได้รับผลลัพธ์ที่มีคุณภาพและปลอดภัย และ 3)พนักงานซ่อมบำรุงอาคารและงานอาคารสถานที่ (FM Engineer) บริการทีมพนักงานที่มีความเชี่ยวชาญและมีประสบการณ์ในงานซ่อมบำรุงและดูแลอาคาร เช่น ช่างอาคาร ผู้จัดการอาคาร นักทำสวน หรือเจ้าหน้าที่ต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับงานอาคารสถานที่ เพื่อบริหารจัดการและดูแลรักษาอาคารอย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมหุ่นยนต์อัจฉริยะ (Smart Robotics) ยกระดับนวัตกรรมด้าน FM ด้วยหุ่นยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วย AI ที่สามารถทำงานได้ตลอด 24 ชั่วโมง ดูแลให้ทุกพื้นที่ทั้งการทำงานภายในและภายนอกอาคารเรียบร้อยได้ภายในระยะเวลาสั้นๆ พร้อมติดตามการทำงานผ่านแดชบอร์ดได้แบบเรียลไทม์

นอกจากนี้ เมทเธียร์กำลังพัฒนาระบบบริหารจัดการการใช้ทรัพยากรภายในอาคาร (Power & Resource Consumption Management) สำหรับช่วยวิเคราะห์และวางแผนการใช้พลังงานไฟฟ้า น้ำ และอากาศให้มีประสิทธิภาพมากที่สุด เพื่อลดต้นทุนจากการใช้ทรัพยากรที่ไม่จำเป็น ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ตอบโจทย์ธุรกิจที่ต้องการขับเคลื่อนองค์กรสู่ความยั่งยืน

สำหรับการขยายฐานลูกค้านั้น ขยล กล่าวว่า เมทเธียร์ ตั้งเป้าขยายฐานลูกค้าจากรัฐบาลสู่กลุ่มเจ้าของธุรกิจ และผู้พัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ขนาดใหญ่ใน 5 กลุ่มหลัก ที่ต้องการยกระดับความปลอดภัยและสร้างสภาพแวดล้อมที่ดีภายในอาคาร ได้แก่ 1.โรงงานอุตสาหกรรม 2.โครงการมิกซ์ยูส (Mixed-Use) 3.โรงพยาบาล 4.สถาบันการเงิน 5.สถานศึกษา