Sunday, April 28, 2024
Latest:
News

รมว.คมนาคมลงพื้นที่แนวเส้นทางตามแผนการพัฒนารถไฟฟ้าในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ ณ บริเวณสถานีมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และสถานีศูนย์ราชการจังหวัดเชียงใหม่

เชียงใหม่ – 8 มกราคม 2567 : สุรพงษ์ ปิยะโชติ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม พร้อมด้วย ณภัทรา กมลรักษา ผู้ช่วยเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม นายสรพงศ์ ไพฑูรย์พงษ์ รองปลัดกระทรวงคมนาคม นายจิรุตม์ วิศาลจิตร อธิบดีกรมการขนส่งทางบก นายพิเชฐ คุณาธรรมรักษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางราง นายสาโรจน์ ต.สุวรรณ รองผู้ว่าการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมลงพื้นที่แนวเส้นทางตามแผนการพัฒนารถไฟฟ้าในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ ณ บริเวณสถานีมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และสถานีศูนย์ราชการจังหวัดเชียงใหม่

สุรพงษ์ ปิยะโชติ (ที่2จากซ้าย) รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม

สุรพงษ์ ปิยะโชติ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า กระทรวงคมนาคมได้ดำเนินการศึกษารูปแบบระบบขนส่งมวลชนในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อบรรเทาปัญหาการจราจรหนาแน่นในพื้นที่ ซึ่งหนึ่งในแผนการพัฒนาระบบขนส่งมวลชนในจังหวัดเชียงใหม่ คือ โครงการรถไฟฟ้ารางเบา เพื่อเป็นทางเลือกการเดินทางที่สะดวก ลดเวลาการเดินทาง และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยเชื่อมโยงโครงข่ายกับระบบขนส่งขนาดรอง (Feeder) ต่าง ๆ สำหรับโครงการรถไฟฟ้าระบบหลัก โดยมีโครงสร้างทางวิ่งผสมระหว่างใต้ดินและระดับดิน ประกอบด้วย 3 เส้นทาง

  • เส้นทางที่ 1 สายสีแดง ช่วงโรงพยาบาลนครพิงค์ – แยกแม่เหียะสมานสามัคคี ระยะทางประมาณ 15.8 กิโลเมตร ประกอบด้วย สถานี 16 สถานี จุดจอดแล้วจร จำนวน 2 แห่ง ที่สถานีโรงพยาบาลนครพิงค์ และสถานีแม่เหียะสมานสามัคคี
  • เส้นทางที่ 2 สายสีน้ำเงิน ช่วงสวนสัตว์เชียงใหม่ – แยกศรีบัวเงินพัฒนา รวม 13 สถานี ระยะทาง 11 กิโลเมตร
  • เส้นทางที่ 3 สายสีเขียว ช่วงแยกรวมโชคมีชัย – ท่าอากาศยานเชียงใหม่ รวม 10 สถานี ระยะทาง 12 กิโลเมตร

ทั้งนี้รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ได้มอบนโยบายในการดำเนินโครงการรถไฟฟ้ารางเบาในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ โดยให้ศึกษาความเป็นไปได้ในการพัฒนาที่เหมาะสมคงอัตลักษณ์ของจังหวัดและสอดคล้องกับวิถีชุมชน หากแนวเส้นทางที่เป็นระดับดินต้องไม่กระทบชุมชนและพื้นผิวจราจร รวมทั้งพิจารณาการใช้งบประมาณให้เกิดประโยชน์สูงสุด ตรงตามเป้าหมายของโครงการ และมีระบบ Feeder เชื่อมต่อการเดินทางรูปแบบอื่นได้อย่างสะดวก ตอบโจทย์การเดินทางของประชาชนในพื้นที่และนักท่องเที่ยว