Monday, April 29, 2024
Latest:
News

เทรนด์ 3S ด้านวิศวกรรม ตอบโจทย์ความต้องการคนเมือง ควบคู่กับความยั่งยืน

โลกของเราอยู่ในช่วงเวลาแห่งการเปลี่ยนผ่านจากสังคมชนบทสู่ความเป็นเมือง (Urbanization) อย่างรวดเร็ว โดยมีการคาดการณ์จากองค์การสหประชาชาติว่าภายในระยะเวลา 10 ปี 70% ของประชากรโลกจะเป็นผู้อยู่อาศัยในชุมชนเมืองเต็มรูปแบบ หนึ่งในอาชีพที่จะมีบทบาทท่ามกลางแนวโน้มการขยายตัวอย่างก้าวกระโดดของสังคมเมือง คงหนีไม่พ้น “วิศวกร” ซึ่งวิศวกรรุ่นใหม่จะมีแนวทางการปรับตัวเพื่อตอบโจทย์ความต้องการที่มาพร้อมการขยายตัวของเมืองอย่างไร ศ.ดร.สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์” อดีตนายกสภาวิศวกรสมัยที่ 7 ได้ร่วมเปิดเผยถึงเทรนด์ที่วิศวกรไทยต้องให้ความสำคัญ

ศ.ดร.สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ อดีตนายกสภาวิศวกรสมัยที่ 7

ประเทศไทยมีการขยายตัวของเมืองอย่างกว้างขวาง นอกจากในกรุงเทพฯ ต่างจังหวัดโดยเฉพาะหัวเมืองใหญ่จะมีการเปลี่ยนผ่านจากชนบทสู่สังคมเมืองอย่างเต็มรูปแบบเช่นเดียวกัน ส่งผลให้มีการโยกย้ายที่อยู่อาศัย รวมถึงจำนวนพลเมืองที่ขึ้น ดังนั้นสาธารณูปโภคและโครงสร้างพื้นฐานอย่างการผลิตไฟฟ้า การก่อสร้างอาคาร ระบบคมนาคม การบำบัดน้ำเสีย ไปจนถึงสายสัญญาณอินเทอร์เน็ต จะเป็นที่ต้องการอย่างมาก ซึ่งภาควิศวกรรมต้องเร่งการพัฒนาเพื่อให้ทันกับดีมานด์ของชาวเมือง อย่างไรก็ตาม แค่การสร้างเมืองให้ได้รวดเร็วทันกับความต้องการของผู้อยู่อาศัยอย่างเดียวอาจไม่เพียงพอ เพราะมีอีกหลายปัจจัยที่วิศวกรต้องให้ความสำคัญ ทั้งความแข็งแรงของระบบโครงสร้าง ความปลอดภัยของกระบวนการก่อสร้าง ไปจนถึงการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม เพื่อให้คุณภาพชีวิตของชาวเมืองดีขึ้นในระยะยาว ดังนั้นความท้าทายของงานวิศวกรรมสมัยใหม่จึงอยู่ที่การเติมเต็มความต้องการของมนุษย์ ควบคู่กับการส่งมอบความยั่งยืนให้กับโลกของเรา

เพื่อให้สามารถรักษาสมดุลระหว่างการเร่งพัฒนาเมืองอย่างมีคุณภาพกับการสร้างความยั่งยืนในกระบวนการทางวิศวกรรม เทรนด์ที่ภาควิศวกรรมไทยต้องให้ความสำคัญ ประกอบด้วย

  • Safety: ความปลอดภัยของชีวิตของชาวเมืองเป็นหัวใจหลักของงานวิศวกรรม ทั้งโครงสร้างพื้นฐานที่มีความมั่นคงสูงไม่ชำรุดเสียหายง่าย รวมถึงการลดอุบัติเหตุจากงานก่อสร้างในพื้นที่ชุมชนให้ได้มากที่สุด ดังนั้นความต้องการในวัสดุการก่อสร้างคุณภาพสูงที่ช่วยเสริมแกร่งระบบโครงสร้าง รวมถึงเทคโนโลยีการก่อสร้างที่ช่วยเพิ่มความแม่นยำและความปลอดภัยในงานวิศวกรรมสมัยใหม่จะเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก
  • Sustainability: ความยั่งยืนและการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมเป็นสิ่งที่ทุกอุตสาหกรรมให้ความสำคัญ รวมถึงในภาควิศวกรรม การพัฒนาวัสดุก่อสร้างชนิดพิเศษที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมด้วยวิทยาการ Material Engineering หรือการต่อยอดงานวิจัยด้าน Green Infrastructure เพื่อสร้างสิ่งปลูกสร้างประหยัดพลังงาน จะเป็นอีกเทรนด์สำคัญที่มีการเติบโต
  • Synergies: การร่วมมือในระดับนานาชาติเป็นปัจจัยสำคัญสำหรับความก้าวหน้าด้านวิศวกรรม โดยทักษะด้านวิศวกรรมของบุคลากรประเทศไทยถือว่ามีชื่อเสียงในระดับโลก ในขณะเดียวกันหากได้รับการส่งเสริมหรือได้ศึกษาเรียนรู้และแลกเปลี่ยนข้อมูล งานวิจัย หรือนวัตกรรมจากต่างประเทศ เช่น เยอรมนี ญี่ปุ่น หรืออังกฤษ ซึ่งมีความก้าวหน้าด้านวิทยาการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานที่ล้ำหน้า จะช่วยให้ประเทศไทยได้เรียนรู้เทคโนโลยีล่าสุดจากกรณีศึกษาที่ประสบความสำเร็จ ขณะที่ประเทศพันธมิตรก็ได้ทดสอบนวัตกรรมใหม่ ๆ ในระบบเมืองที่มีความซับซ้อนอย่างประเทศไทย

จะเห็นได้ว่าการมีเทคโนโลยี และนวัตกรรมด้านวิศวกรรมใหม่ ๆ เข้ามาพัฒนาความก้าวหน้าทางอุตสาหกรรม จะเป็นปัจจัยสนับสนุนที่ดีที่ช่วยต่อยอดให้กับการพัฒนาวิศวกรรมในสมัยใหม่ได้ ยิ่งไปกว่านั้นหากเรามีเวทีที่สามารถรวบรวมบุคลากรจากนานาประเทศที่มีความเชี่ยวชาญด้านวิศวกรรมมาร่วมกันแลกเปลี่ยนความรู้ ก็จะเป็นโอกาสที่จะขับเคลื่อนภาคอุตสาหกรรมโครงสร้างพื้นฐานของไทยให้เติบโตไปอีกขั้น ล่าสุดมี 4 งานนิทรรศการด้านอุตสาหกรรมครั้งสำคัญแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อย่าง “wire & Tube Southeast Asia 2023 – GIFA & METEC Southeast Asia 2023” ซึ่งจัดขึ้นพร้อมกันระหว่างวันที่ 20 – 22 กันยายน 2566 ณ ศูนย์ประชุมไบเทค บางนา ภายในงานมีการรวบรวมเทคโนโลยีทางวิศวกรรมล่าสุด พร้อมด้วยนวัตกรรมด้านลวดและท่อ ไปจนถึงความก้าวหน้าด้านวิทยาการโลหะ และการหลอมโลหะสำหรับการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐาน โดยผู้ผลิตมากกว่า 400 แห่งจาก 30 ประเทศทั่วโลก